BM607 - BLISS
2 posters
หน้า 1 จาก 1
BM607 - BLISS
ผู้ถือหุ้น BLISS เจ๊ง บริษัทลดทุน 236 ล้าน
BLISS ยังไม่เห็นทางสว่างแม้ลดทุนจาก 315 ล้าน เหลือ 78 ล้าน ขาดทุนสะสมยังไม่หมดอนาคตหวังพึ่งมือถือ 3G
นายอรรถวิชญ์ เอกธนิตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลิส-เทล (BLISS) เปิดเผยว่า คณะกรรมการอนุมัติให้บริษัทลดทุนจดทะเบียน จากเดิม 315 ล้านบาท เหลือ 78.75 ล้านบาท หรือลดทุนไป 236.25 ล้านบาท โดยลดจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วในอัตราส่วน 4 หุ้นเดิม เหลือ 1 หุ้น เพื่อชดเชยผลการขาดทุนสะสมของบริษัท"
ข้อสังเกตุเล็กๆน้อยๆ
ปัจจุบันทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 3,150.00 ล้านหุ้นๆละ(พาร์) 0.10 บาท เป็นจำนวนเงิน 315.00 ล้านบาท การลดทุนเหลือ 78.75 ล้านบาท เป็นไปไม่ได้ที่จะลดพาร์ต่ำกว่า 0.10 บาท ฉะนั้นทางเดียวทำได้คือลดจำนวนหุ้น 4 หุ้นเดิมเหลือ 1 หุ้นใหม่ นั้นหมายถึงเพื่อนนๆที่มีหุ้นอยู่จะลดลงตามสัดส่วน 4 : 1 หุ้น เช่น มี 100,000 หุ้น จะเหลือ 25,000 หุ้น จะได้สิทธิซื้อหุ้นใหม่ที่ราคา 0.05 บาทชดเชย
การลดทุนครั้งนี้ทำให้สัดส่วนผู้ถือหุ้น ณ 30 มิถุนายน 2552 ติดลบ -71.24 ล้านบาท กลับมาเป็นบวก 165.76 ล้านบาท นอกเหนือยังจะมีเงินเพิ่มทุนประมาณ 78 ล้านบาท (ถ้าขายและรับเงินก่อน 31/12/2552) รองรับผลประกอบการไตรมาส 3/2552 & 4/2552 คิดว่าจะออกมาขาดทุน แต่คงไม่ถึงทำให้สัดส่วนผู้ถือหุ้นติดลบสิ้นสุดไตรมาส 4/2552 บริษัทอยู่รอดไม่ถูก sp ตามที่ ตลท ได้ออกมาเตือนก่อนหน้า
http://www.set.or.th/dat/news/200909/09032330.pdf
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 กันยายน 2009, 10:53:14 AM โดย Dr.Pracha Tansaenee »
BLISS ยังไม่เห็นทางสว่างแม้ลดทุนจาก 315 ล้าน เหลือ 78 ล้าน ขาดทุนสะสมยังไม่หมดอนาคตหวังพึ่งมือถือ 3G
นายอรรถวิชญ์ เอกธนิตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลิส-เทล (BLISS) เปิดเผยว่า คณะกรรมการอนุมัติให้บริษัทลดทุนจดทะเบียน จากเดิม 315 ล้านบาท เหลือ 78.75 ล้านบาท หรือลดทุนไป 236.25 ล้านบาท โดยลดจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วในอัตราส่วน 4 หุ้นเดิม เหลือ 1 หุ้น เพื่อชดเชยผลการขาดทุนสะสมของบริษัท"
ข้อสังเกตุเล็กๆน้อยๆ
ปัจจุบันทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 3,150.00 ล้านหุ้นๆละ(พาร์) 0.10 บาท เป็นจำนวนเงิน 315.00 ล้านบาท การลดทุนเหลือ 78.75 ล้านบาท เป็นไปไม่ได้ที่จะลดพาร์ต่ำกว่า 0.10 บาท ฉะนั้นทางเดียวทำได้คือลดจำนวนหุ้น 4 หุ้นเดิมเหลือ 1 หุ้นใหม่ นั้นหมายถึงเพื่อนนๆที่มีหุ้นอยู่จะลดลงตามสัดส่วน 4 : 1 หุ้น เช่น มี 100,000 หุ้น จะเหลือ 25,000 หุ้น จะได้สิทธิซื้อหุ้นใหม่ที่ราคา 0.05 บาทชดเชย
การลดทุนครั้งนี้ทำให้สัดส่วนผู้ถือหุ้น ณ 30 มิถุนายน 2552 ติดลบ -71.24 ล้านบาท กลับมาเป็นบวก 165.76 ล้านบาท นอกเหนือยังจะมีเงินเพิ่มทุนประมาณ 78 ล้านบาท (ถ้าขายและรับเงินก่อน 31/12/2552) รองรับผลประกอบการไตรมาส 3/2552 & 4/2552 คิดว่าจะออกมาขาดทุน แต่คงไม่ถึงทำให้สัดส่วนผู้ถือหุ้นติดลบสิ้นสุดไตรมาส 4/2552 บริษัทอยู่รอดไม่ถูก sp ตามที่ ตลท ได้ออกมาเตือนก่อนหน้า
http://www.set.or.th/dat/news/200909/09032330.pdf
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 กันยายน 2009, 10:53:14 AM โดย Dr.Pracha Tansaenee »
แก้ไขล่าสุดโดย Ton เมื่อ Sat Jan 23, 2010 12:11 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
Ton- Admin
- จำนวนข้อความ : 127
Join date : 03/05/2009
: 48
web
http://www.blisstel.com/2008/BC/InvestorRelations.html
นักลงทุนสัมพันธ์
Download หนังสือเชิญประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2552 และเอกสารประกอบการประชุม
1.หนังสือเชิญประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) ครั้งที 2/2552
2.สำเนารายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2552
3.แบบรายงานการเพิ่มทุน (F 53-4)
4.หนังสือมอบฉันทะ
5.หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการเข้าร่วมประชุม การมอบฉันทะและการออกเสียงลงคะแนน
6.ประวัติโดยย่อของกรรมการอิสระ (ผู้รับมอบฉันทะจากผู้ถือหุ้น)
7.ประวัติโดยย่อของกรรมการใหม่
8.แผนที่สถานที่ประชุม
นักลงทุนสัมพันธ์
Download หนังสือเชิญประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2552 และเอกสารประกอบการประชุม
1.หนังสือเชิญประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) ครั้งที 2/2552
2.สำเนารายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2552
3.แบบรายงานการเพิ่มทุน (F 53-4)
4.หนังสือมอบฉันทะ
5.หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการเข้าร่วมประชุม การมอบฉันทะและการออกเสียงลงคะแนน
6.ประวัติโดยย่อของกรรมการอิสระ (ผู้รับมอบฉันทะจากผู้ถือหุ้น)
7.ประวัติโดยย่อของกรรมการใหม่
8.แผนที่สถานที่ประชุม
Ton- Admin
- จำนวนข้อความ : 127
Join date : 03/05/2009
: 48
http://www.newswit.com/news/2007-11-22/0400-blisstel-iec-wds/
BLISSTEL จับมือ IEC และ WDS ดึงวัยโจ๋ถอยมือถือลุ้นรับฟีโน่ขับอวดแฟน
Thursday, 22 November 2007 04:00 -- โทรคมนาคม สื่อสาร
BLISSTEL ร่วมกับ IEC และ WDS จัดแคมเปญส่งเสริมการขายส่งท้ายปีเก่า 2550 ต้อนรับปีใหม่ 2551 “ถอยมือถือลุ้นรับฟีโน่” แจกจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ ทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละคัน ตลอด 6 สัปดาห์ และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 6 แสนบาท เพียงลูกค้าซื้อมือถือ NOKIA และ PHONE ONE ที่มีสติ๊กเกอร์ MFA ผ่านบลิสเทล ช็อป และโมบาย อีซี่ ก็มีสิทธิร่วมลุ้นรางวัล ระบุเริ่มจับรางวัลครั้งแรกวันที่ 15 ธันวาคม 2550 ณ บริเวณหน้าร้านบลิสเทล ช็อป ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ บางกะปิ
บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS ร่วมกับ บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอ็นจีเนียริง จำกัด (มหาชน) (IEC) และบริษัท ไวร์เลส ดีไวซ์ ซัพพลาย จำกัด (WDS) ผู้นำเข้าสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ภายใต้สัญลักษณ์ MFA : MOBILE FROM ADVANCE จัดงานแถลงข่าวกิจกรรม “ถอยมือถือลุ้นรับฟีโน่” โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงส่งท้ายปีเก่า 2550 และต้อนรับปีใหม่ 2551 เพียงลูกค้าซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อ NOKIA และ PHONE ONE ทุกรุ่นที่มีสติ๊กเกอร์ MFA ผ่านร้านบลิสเทล ช็อป และโมบาย อีซี่ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2550 ถึง 15 มกราคม 2551 ก็สามารถมีสิทธิร่วมลุ้นรับของรางวัลต่างๆ มากมาย
นายอภิชาติ ตันติเวชกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) (BLISS) กล่าวด้วยความมุ่งมั่นว่าแคมเปญนี้จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าทุกกลุ่ม เนื่องจากลูกค้าที่ซื้อโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ NOKIA และ PHONE ONE ทุกรุ่นผ่านร้านบลิสเทล ช็อป และโมบาย อีซี่ จะได้รับคูปองเพื่อส่งชิงโชคของรางวัลต่างๆ มากมาย โดยลูกค้าที่ซื้อโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 ยี่ห้อจะได้รับคูปอง 1 ใบ/เครื่อง ยกเว้นโทรศัพท์มือถือที่มีราคาแพงกว่า 5,000 บาทขึ้นไป จะได้รับคูปองเพิ่มอีก 1 ใบ และมีเงื่อนไขการแจกคูปองสูงสุดไม่เกิน 2 ใบ/เครื่อง/ครั้ง
“เราต้องการคืนกำไรให้กับลูกค้าในช่วงส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมาลูกค้าให้ความไว้ใจและเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ที่บลิสเทลและไออีซีจัดจำหน่ายมาโดยตลอด ดังนั้น เราและไออีซีจึงต้องการตอบแทนลูกค้าโดยการออกแคมเปญดังกล่าว และที่สำคัญ แคมเปญนี้นอกจากจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับบริษัทและไออีซีแล้ว ยังช่วยสร้างสีสันให้กับตลาดโทรศัพท์มือถือในช่วงสิ้นปีนี้อีกด้วย” รองกรรมการผู้จัดการกล่าว และว่าบลิสเทลและไออีซีคาดหวังว่าแคมเปญนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งจะใช้เวลาในการจัดแคมเปญตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2550 ถึง 15 มกราคม 2551 และมีการนำของรางวัลมาแจกมากมายมูลค่ากว่า 6 แสนบาท โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ 6 คัน แจกทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 คัน นอกจากนั้น ยังมีการแจกเครื่องปริ๊นต์สี SAMSUNG รุ่น SPP2020 จำนวน 30 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ EZIO รุ่น SL308 และรุ่น E800 อย่างละ 12 เครื่อง เครื่องโทรศัพท์ Easy Tel IP Phone รุ่น SAB200 พร้อมบัตรโทรศัพท์ E-Talk Account Card จำนวน 12 ชุด หม้อหุงข้าว และเตารีด ยี่ห้อ SHARP อีกอย่างละ 12 เครื่อง โดยทยอยแจกในแต่ละสัปดาห์
สำหรับการจับรางวัลนั้น นายอภิชาติกล่าวว่าได้แบ่งการจับรางวัลออกเป็น 6 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะมีกำหนดระยะเวลารับคูปอง ดังนี้ ครั้งที่ 1 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 1-7 ธันวาคม 2550 และมีการจับรางวัลครั้งแรกในวันที่ 15 ธันวาคม 2550 ณ บริเวณหน้าร้านบลิสเทล ช็อป ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ ครั้งที่ 2 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 8-14 ธันวาคม 2550 และมีการจับรางวัลในวันที่ 22 ธันวาคม 2550 ณ บริเวณหน้าร้านบลิสเทล ช็อป ที่ห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ
ครั้งที่ 3 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 15-21 ธันวาคม 2550 และมีการจับรางวัลในวันที่ 29 ธันวาคม 2550 ณ บริเวณหน้าร้านบลิสเทล ช็อป ห้างสรรพสินค้า NSS ซีคอน สแควร์ ส่วนครั้งที่ 4 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 22-28 ธันวาคม 2550 และมีการจับรางวัลในวันที่ 5 มกราคม 2551 ณ บริเวณหน้าร้าน บลิสเทล ช็อป ที่ห้าง NSS ซีคอน สแควร์ ขณะที่ครั้งที่ 5 และ 6 มีการจับรางวัล ณ บริเวณหน้าร้าน บลิสเทล ช็อป ห้างสรรพสินค้า แฟชั่น ไอซ์แลนด์ โดยครั้งที่ 5 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2550 ถึง 4 มกราคม 2551 และมีการจับรางวัลในวันที่ 12 มกราคม 2551 และครั้งสุดท้าย ครั้งที่ 6 เริ่มรับคูปองวันที่ 5-15 มกราคม 2551 และมีการจับรางวัลในวันที่ 19 มกราคม 2551
สรุปตารางและระยะเวลาการจัดแคมเปญ : 1 ธันวาคม 2550 ถึง 15 มกราคม 2551
ครั้งที่ ระยะเวลารับคูปอง วันที่จับรางวัล สถานที่จับรางวัล
1 1-7 ธ.ค. 50 15 ธ.ค. 50 เดอะมอลล์ บางกะปิ
2 8-14 ธ.ค. 50 22 ธ.ค. 50 เดอะมอลล์ บางกะปิ
3 15-21 ธ.ค. 50 29 ธ.ค. 50 NSS ซีคอน สแควร์
4 22-28 ธ.ค. 50 5 ม.ค. 51 NSS ซีคอน สแควร์
5 29 ธ.ค. 50 - 4 ม.ค. 51 12 ม.ค. 51 แฟชั่น ไอซ์แลนด์
6 5-15 ม.ค. 51 19 ม.ค. 51 แฟชั่น ไอซ์แลนด์
“เรามั่นใจว่าแคมเปญครั้งนี้จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับบลิสเทลและไออีซีได้เป็นอย่างดี โดยมีการตั้งเป้ายอดขายร่วมกันตลอดรายการไว้ที่ 20,000 เครื่อง พร้อมกันนั้น เราวางแผนจะมีการจัดแคมเปญอื่นๆ ออกมาช่วยกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญ ปีหน้า 2551 ลูกค้าและประชาชนจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของบลิสเทลอีกมากมาย ซึ่งขณะนี้เราได้เตรียมการเอาไว้หมดแล้ว” นายอภิชาติกล่าวทิ้งท้าย
หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ :
นายวีรพงษ์ อัสดรธีรยุทธ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ
BLISS โทร. 0-2792-2222 ต่อ 2269 สายตรง 0-2792-2269 มือถือ 08-1375-7721 แฟกซ์. 0-2792-2202
อีเมล : VEERAPONG@BLISSTEL.COM
Back to November 22, 2007 Headlines
Thursday, 22 November 2007 04:00 -- โทรคมนาคม สื่อสาร
BLISSTEL ร่วมกับ IEC และ WDS จัดแคมเปญส่งเสริมการขายส่งท้ายปีเก่า 2550 ต้อนรับปีใหม่ 2551 “ถอยมือถือลุ้นรับฟีโน่” แจกจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ ทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละคัน ตลอด 6 สัปดาห์ และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 6 แสนบาท เพียงลูกค้าซื้อมือถือ NOKIA และ PHONE ONE ที่มีสติ๊กเกอร์ MFA ผ่านบลิสเทล ช็อป และโมบาย อีซี่ ก็มีสิทธิร่วมลุ้นรางวัล ระบุเริ่มจับรางวัลครั้งแรกวันที่ 15 ธันวาคม 2550 ณ บริเวณหน้าร้านบลิสเทล ช็อป ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ บางกะปิ
บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS ร่วมกับ บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอ็นจีเนียริง จำกัด (มหาชน) (IEC) และบริษัท ไวร์เลส ดีไวซ์ ซัพพลาย จำกัด (WDS) ผู้นำเข้าสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ภายใต้สัญลักษณ์ MFA : MOBILE FROM ADVANCE จัดงานแถลงข่าวกิจกรรม “ถอยมือถือลุ้นรับฟีโน่” โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงส่งท้ายปีเก่า 2550 และต้อนรับปีใหม่ 2551 เพียงลูกค้าซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อ NOKIA และ PHONE ONE ทุกรุ่นที่มีสติ๊กเกอร์ MFA ผ่านร้านบลิสเทล ช็อป และโมบาย อีซี่ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2550 ถึง 15 มกราคม 2551 ก็สามารถมีสิทธิร่วมลุ้นรับของรางวัลต่างๆ มากมาย
นายอภิชาติ ตันติเวชกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) (BLISS) กล่าวด้วยความมุ่งมั่นว่าแคมเปญนี้จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าทุกกลุ่ม เนื่องจากลูกค้าที่ซื้อโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ NOKIA และ PHONE ONE ทุกรุ่นผ่านร้านบลิสเทล ช็อป และโมบาย อีซี่ จะได้รับคูปองเพื่อส่งชิงโชคของรางวัลต่างๆ มากมาย โดยลูกค้าที่ซื้อโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 ยี่ห้อจะได้รับคูปอง 1 ใบ/เครื่อง ยกเว้นโทรศัพท์มือถือที่มีราคาแพงกว่า 5,000 บาทขึ้นไป จะได้รับคูปองเพิ่มอีก 1 ใบ และมีเงื่อนไขการแจกคูปองสูงสุดไม่เกิน 2 ใบ/เครื่อง/ครั้ง
“เราต้องการคืนกำไรให้กับลูกค้าในช่วงส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมาลูกค้าให้ความไว้ใจและเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ที่บลิสเทลและไออีซีจัดจำหน่ายมาโดยตลอด ดังนั้น เราและไออีซีจึงต้องการตอบแทนลูกค้าโดยการออกแคมเปญดังกล่าว และที่สำคัญ แคมเปญนี้นอกจากจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับบริษัทและไออีซีแล้ว ยังช่วยสร้างสีสันให้กับตลาดโทรศัพท์มือถือในช่วงสิ้นปีนี้อีกด้วย” รองกรรมการผู้จัดการกล่าว และว่าบลิสเทลและไออีซีคาดหวังว่าแคมเปญนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งจะใช้เวลาในการจัดแคมเปญตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2550 ถึง 15 มกราคม 2551 และมีการนำของรางวัลมาแจกมากมายมูลค่ากว่า 6 แสนบาท โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ 6 คัน แจกทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 คัน นอกจากนั้น ยังมีการแจกเครื่องปริ๊นต์สี SAMSUNG รุ่น SPP2020 จำนวน 30 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ EZIO รุ่น SL308 และรุ่น E800 อย่างละ 12 เครื่อง เครื่องโทรศัพท์ Easy Tel IP Phone รุ่น SAB200 พร้อมบัตรโทรศัพท์ E-Talk Account Card จำนวน 12 ชุด หม้อหุงข้าว และเตารีด ยี่ห้อ SHARP อีกอย่างละ 12 เครื่อง โดยทยอยแจกในแต่ละสัปดาห์
สำหรับการจับรางวัลนั้น นายอภิชาติกล่าวว่าได้แบ่งการจับรางวัลออกเป็น 6 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะมีกำหนดระยะเวลารับคูปอง ดังนี้ ครั้งที่ 1 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 1-7 ธันวาคม 2550 และมีการจับรางวัลครั้งแรกในวันที่ 15 ธันวาคม 2550 ณ บริเวณหน้าร้านบลิสเทล ช็อป ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ ครั้งที่ 2 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 8-14 ธันวาคม 2550 และมีการจับรางวัลในวันที่ 22 ธันวาคม 2550 ณ บริเวณหน้าร้านบลิสเทล ช็อป ที่ห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ
ครั้งที่ 3 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 15-21 ธันวาคม 2550 และมีการจับรางวัลในวันที่ 29 ธันวาคม 2550 ณ บริเวณหน้าร้านบลิสเทล ช็อป ห้างสรรพสินค้า NSS ซีคอน สแควร์ ส่วนครั้งที่ 4 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 22-28 ธันวาคม 2550 และมีการจับรางวัลในวันที่ 5 มกราคม 2551 ณ บริเวณหน้าร้าน บลิสเทล ช็อป ที่ห้าง NSS ซีคอน สแควร์ ขณะที่ครั้งที่ 5 และ 6 มีการจับรางวัล ณ บริเวณหน้าร้าน บลิสเทล ช็อป ห้างสรรพสินค้า แฟชั่น ไอซ์แลนด์ โดยครั้งที่ 5 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2550 ถึง 4 มกราคม 2551 และมีการจับรางวัลในวันที่ 12 มกราคม 2551 และครั้งสุดท้าย ครั้งที่ 6 เริ่มรับคูปองวันที่ 5-15 มกราคม 2551 และมีการจับรางวัลในวันที่ 19 มกราคม 2551
สรุปตารางและระยะเวลาการจัดแคมเปญ : 1 ธันวาคม 2550 ถึง 15 มกราคม 2551
ครั้งที่ ระยะเวลารับคูปอง วันที่จับรางวัล สถานที่จับรางวัล
1 1-7 ธ.ค. 50 15 ธ.ค. 50 เดอะมอลล์ บางกะปิ
2 8-14 ธ.ค. 50 22 ธ.ค. 50 เดอะมอลล์ บางกะปิ
3 15-21 ธ.ค. 50 29 ธ.ค. 50 NSS ซีคอน สแควร์
4 22-28 ธ.ค. 50 5 ม.ค. 51 NSS ซีคอน สแควร์
5 29 ธ.ค. 50 - 4 ม.ค. 51 12 ม.ค. 51 แฟชั่น ไอซ์แลนด์
6 5-15 ม.ค. 51 19 ม.ค. 51 แฟชั่น ไอซ์แลนด์
“เรามั่นใจว่าแคมเปญครั้งนี้จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับบลิสเทลและไออีซีได้เป็นอย่างดี โดยมีการตั้งเป้ายอดขายร่วมกันตลอดรายการไว้ที่ 20,000 เครื่อง พร้อมกันนั้น เราวางแผนจะมีการจัดแคมเปญอื่นๆ ออกมาช่วยกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญ ปีหน้า 2551 ลูกค้าและประชาชนจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของบลิสเทลอีกมากมาย ซึ่งขณะนี้เราได้เตรียมการเอาไว้หมดแล้ว” นายอภิชาติกล่าวทิ้งท้าย
หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ :
นายวีรพงษ์ อัสดรธีรยุทธ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ
BLISS โทร. 0-2792-2222 ต่อ 2269 สายตรง 0-2792-2269 มือถือ 08-1375-7721 แฟกซ์. 0-2792-2202
อีเมล : VEERAPONG@BLISSTEL.COM
Back to November 22, 2007 Headlines
Ton- Admin
- จำนวนข้อความ : 127
Join date : 03/05/2009
: 48
http://www.thaipr.net/nc/readnews.aspx?newsid=021F7362C85C61777C1120B6D3D2057D
BLISSTEL จับมือ IEC และ WDS ดึงวัยโจ๋ถอยมือถือลุ้นรับฟีโน่ขับอวดแฟน
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2550 11:00 น.
พิมพ์ | อีเมล์
ที่มา บลิส-เทล
BLISSTEL ร่วมกับ IEC และ WDS จัดแคมเปญส่งเสริมการขายส่งท้ายปีเก่า 2550 ต้อนรับปีใหม่ 2551 “ถอยมือถือลุ้นรับฟีโน่” แจกจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ ทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละคัน ตลอด 6 สัปดาห์ และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 6 แสนบาท เพียงลูกค้าซื้อมือถือ NOKIA และ PHONE ONE ที่มีสติ๊กเกอร์ MFA ผ่านบลิสเทล ช็อป และโมบาย อีซี่ ก็มีสิทธิร่วมลุ้นรางวัล ระบุเริ่มจับรางวัลครั้งแรกวันที่ 15 ธันวาคม 2550 ณ บริเวณหน้าร้านบลิสเทล ช็อป ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ บางกะปิ
บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS ร่วมกับ บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอ็นจีเนียริง จำกัด (มหาชน) (IEC) และบริษัท ไวร์เลส ดีไวซ์ ซัพพลาย จำกัด (WDS) ผู้นำเข้าสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ภายใต้สัญลักษณ์ MFA : MOBILE FROM ADVANCE จัดงานแถลงข่าวกิจกรรม “ถอยมือถือลุ้นรับฟีโน่” โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงส่งท้ายปีเก่า 2550 และต้อนรับปีใหม่ 2551 เพียงลูกค้าซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อ NOKIA และ PHONE ONE ทุกรุ่นที่มีสติ๊กเกอร์ MFA ผ่านร้านบลิสเทล ช็อป และโมบาย อีซี่ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2550 ถึง 15 มกราคม 2551 ก็สามารถมีสิทธิร่วมลุ้นรับของรางวัลต่างๆ มากมาย
นายอภิชาติ ตันติเวชกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) (BLISS) กล่าวด้วยความมุ่งมั่นว่าแคมเปญนี้จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าทุกกลุ่ม เนื่องจากลูกค้าที่ซื้อโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ NOKIA และ PHONE ONE ทุกรุ่นผ่านร้านบลิสเทล ช็อป และโมบาย อีซี่ จะได้รับคูปองเพื่อส่งชิงโชคของรางวัลต่างๆ มากมาย โดยลูกค้าที่ซื้อโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 ยี่ห้อจะได้รับคูปอง 1 ใบ/เครื่อง ยกเว้นโทรศัพท์มือถือที่มีราคาแพงกว่า 5,000 บาทขึ้นไป จะได้รับคูปองเพิ่มอีก 1 ใบ และมีเงื่อนไขการแจกคูปองสูงสุดไม่เกิน 2 ใบ/เครื่อง/ครั้ง
“เราต้องการคืนกำไรให้กับลูกค้าในช่วงส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมาลูกค้าให้ความไว้ใจและเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ที่บลิสเทลและไออีซีจัดจำหน่ายมาโดยตลอด ดังนั้น เราและไออีซีจึงต้องการตอบแทนลูกค้าโดยการออกแคมเปญดังกล่าว และที่สำคัญ แคมเปญนี้นอกจากจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับบริษัทและไออีซีแล้ว ยังช่วยสร้างสีสันให้กับตลาดโทรศัพท์มือถือในช่วงสิ้นปีนี้อีกด้วย” รองกรรมการผู้จัดการกล่าว และว่าบลิสเทลและไออีซีคาดหวังว่าแคมเปญนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งจะใช้เวลาในการจัดแคมเปญตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2550 ถึง 15 มกราคม 2551 และมีการนำของรางวัลมาแจกมากมายมูลค่ากว่า 6 แสนบาท โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ 6 คัน แจกทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 คัน นอกจากนั้น ยังมีการแจกเครื่องปริ๊นต์สี SAMSUNG รุ่น SPP2020 จำนวน 30 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ EZIO รุ่น SL308 และรุ่น E800 อย่างละ 12 เครื่อง เครื่องโทรศัพท์ Easy Tel IP Phone รุ่น SAB200 พร้อมบัตรโทรศัพท์ E-Talk Account Card จำนวน 12 ชุด หม้อหุงข้าว และเตารีด ยี่ห้อ SHARP อีกอย่างละ 12 เครื่อง โดยทยอยแจกในแต่ละสัปดาห์
สำหรับการจับรางวัลนั้น นายอภิชาติกล่าวว่าได้แบ่งการจับรางวัลออกเป็น 6 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะมีกำหนดระยะเวลารับคูปอง ดังนี้ ครั้งที่ 1 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 1-7 ธันวาคม 2550 และมีการจับรางวัลครั้งแรกในวันที่ 15 ธันวาคม 2550 ณ บริเวณหน้าร้านบลิสเทล ช็อป ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ ครั้งที่ 2 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 8-14 ธันวาคม 2550 และมีการจับรางวัลในวันที่ 22 ธันวาคม 2550 ณ บริเวณหน้าร้านบลิสเทล ช็อป ที่ห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ
ครั้งที่ 3 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 15-21 ธันวาคม 2550 และมีการจับรางวัลในวันที่ 29 ธันวาคม 2550 ณ บริเวณหน้าร้านบลิสเทล ช็อป ห้างสรรพสินค้า NSS ซีคอน สแควร์ ส่วนครั้งที่ 4 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 22-28 ธันวาคม 2550 และมีการจับรางวัลในวันที่ 5 มกราคม 2551 ณ บริเวณหน้าร้าน บลิสเทล ช็อป ที่ห้าง NSS ซีคอน สแควร์ ขณะที่ครั้งที่ 5 และ 6 มีการจับรางวัล ณ บริเวณหน้าร้าน บลิสเทล ช็อป ห้างสรรพสินค้า แฟชั่น ไอซ์แลนด์ โดยครั้งที่ 5 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2550 ถึง 4 มกราคม 2551 และมีการจับรางวัลในวันที่ 12 มกราคม 2551 และครั้งสุดท้าย ครั้งที่ 6 เริ่มรับคูปองวันที่ 5-15 มกราคม 2551 และมีการจับรางวัลในวันที่ 19 มกราคม 2551
สรุปตารางและระยะเวลาการจัดแคมเปญ : 1 ธันวาคม 2550 ถึง 15 มกราคม 2551
ครั้งที่ ระยะเวลารับคูปอง วันที่จับรางวัล สถานที่จับรางวัล
1 1-7 ธ.ค. 50 15 ธ.ค. 50 เดอะมอลล์ บางกะปิ
2 8-14 ธ.ค. 50 22 ธ.ค. 50 เดอะมอลล์ บางกะปิ
3 15-21 ธ.ค. 50 29 ธ.ค. 50 NSS ซีคอน สแควร์
4 22-28 ธ.ค. 50 5 ม.ค. 51 NSS ซีคอน สแควร์
5 29 ธ.ค. 50 - 4 ม.ค. 51 12 ม.ค. 51 แฟชั่น ไอซ์แลนด์
6 5-15 ม.ค. 51 19 ม.ค. 51 แฟชั่น ไอซ์แลนด์
“เรามั่นใจว่าแคมเปญครั้งนี้จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับบลิสเทลและไออีซีได้เป็นอย่างดี โดยมีการตั้งเป้ายอดขายร่วมกันตลอดรายการไว้ที่ 20,000 เครื่อง พร้อมกันนั้น เราวางแผนจะมีการจัดแคมเปญอื่นๆ ออกมาช่วยกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญ ปีหน้า 2551 ลูกค้าและประชาชนจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของบลิสเทลอีกมากมาย ซึ่งขณะนี้เราได้เตรียมการเอาไว้หมดแล้ว” นายอภิชาติกล่าวทิ้งท้าย
หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ :
นายวีรพงษ์ อัสดรธีรยุทธ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ
BLISS โทร. 0-2792-2222 ต่อ 2269 สายตรง 0-2792-2269 มือถือ 08-1375-7721 แฟกซ์. 0-2792-2202
อีเมล : VEERAPONG@BLISSTEL.COM
ข่าวชิ้นนี้เผยแพร่โดย ไทยพีอาร์ ดอทเน็ต
ค้นหาข่าวย้อนหลังมากกว่า 30 วัน ได้ที่ www.iqnewscenter.com
BLISSTEL จับมือ IEC และ WDS ดึงวัยโจ๋ถอยมือถือลุ้นรับฟีโน่ขับอวดแฟน
tags :
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2550 11:00 น.
พิมพ์ | อีเมล์
ที่มา บลิส-เทล
BLISSTEL ร่วมกับ IEC และ WDS จัดแคมเปญส่งเสริมการขายส่งท้ายปีเก่า 2550 ต้อนรับปีใหม่ 2551 “ถอยมือถือลุ้นรับฟีโน่” แจกจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ ทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละคัน ตลอด 6 สัปดาห์ และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 6 แสนบาท เพียงลูกค้าซื้อมือถือ NOKIA และ PHONE ONE ที่มีสติ๊กเกอร์ MFA ผ่านบลิสเทล ช็อป และโมบาย อีซี่ ก็มีสิทธิร่วมลุ้นรางวัล ระบุเริ่มจับรางวัลครั้งแรกวันที่ 15 ธันวาคม 2550 ณ บริเวณหน้าร้านบลิสเทล ช็อป ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ บางกะปิ
บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS ร่วมกับ บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอ็นจีเนียริง จำกัด (มหาชน) (IEC) และบริษัท ไวร์เลส ดีไวซ์ ซัพพลาย จำกัด (WDS) ผู้นำเข้าสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ภายใต้สัญลักษณ์ MFA : MOBILE FROM ADVANCE จัดงานแถลงข่าวกิจกรรม “ถอยมือถือลุ้นรับฟีโน่” โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงส่งท้ายปีเก่า 2550 และต้อนรับปีใหม่ 2551 เพียงลูกค้าซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อ NOKIA และ PHONE ONE ทุกรุ่นที่มีสติ๊กเกอร์ MFA ผ่านร้านบลิสเทล ช็อป และโมบาย อีซี่ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2550 ถึง 15 มกราคม 2551 ก็สามารถมีสิทธิร่วมลุ้นรับของรางวัลต่างๆ มากมาย
นายอภิชาติ ตันติเวชกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) (BLISS) กล่าวด้วยความมุ่งมั่นว่าแคมเปญนี้จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าทุกกลุ่ม เนื่องจากลูกค้าที่ซื้อโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ NOKIA และ PHONE ONE ทุกรุ่นผ่านร้านบลิสเทล ช็อป และโมบาย อีซี่ จะได้รับคูปองเพื่อส่งชิงโชคของรางวัลต่างๆ มากมาย โดยลูกค้าที่ซื้อโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 ยี่ห้อจะได้รับคูปอง 1 ใบ/เครื่อง ยกเว้นโทรศัพท์มือถือที่มีราคาแพงกว่า 5,000 บาทขึ้นไป จะได้รับคูปองเพิ่มอีก 1 ใบ และมีเงื่อนไขการแจกคูปองสูงสุดไม่เกิน 2 ใบ/เครื่อง/ครั้ง
“เราต้องการคืนกำไรให้กับลูกค้าในช่วงส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมาลูกค้าให้ความไว้ใจและเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ที่บลิสเทลและไออีซีจัดจำหน่ายมาโดยตลอด ดังนั้น เราและไออีซีจึงต้องการตอบแทนลูกค้าโดยการออกแคมเปญดังกล่าว และที่สำคัญ แคมเปญนี้นอกจากจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับบริษัทและไออีซีแล้ว ยังช่วยสร้างสีสันให้กับตลาดโทรศัพท์มือถือในช่วงสิ้นปีนี้อีกด้วย” รองกรรมการผู้จัดการกล่าว และว่าบลิสเทลและไออีซีคาดหวังว่าแคมเปญนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งจะใช้เวลาในการจัดแคมเปญตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2550 ถึง 15 มกราคม 2551 และมีการนำของรางวัลมาแจกมากมายมูลค่ากว่า 6 แสนบาท โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ 6 คัน แจกทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 คัน นอกจากนั้น ยังมีการแจกเครื่องปริ๊นต์สี SAMSUNG รุ่น SPP2020 จำนวน 30 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ EZIO รุ่น SL308 และรุ่น E800 อย่างละ 12 เครื่อง เครื่องโทรศัพท์ Easy Tel IP Phone รุ่น SAB200 พร้อมบัตรโทรศัพท์ E-Talk Account Card จำนวน 12 ชุด หม้อหุงข้าว และเตารีด ยี่ห้อ SHARP อีกอย่างละ 12 เครื่อง โดยทยอยแจกในแต่ละสัปดาห์
สำหรับการจับรางวัลนั้น นายอภิชาติกล่าวว่าได้แบ่งการจับรางวัลออกเป็น 6 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะมีกำหนดระยะเวลารับคูปอง ดังนี้ ครั้งที่ 1 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 1-7 ธันวาคม 2550 และมีการจับรางวัลครั้งแรกในวันที่ 15 ธันวาคม 2550 ณ บริเวณหน้าร้านบลิสเทล ช็อป ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ ครั้งที่ 2 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 8-14 ธันวาคม 2550 และมีการจับรางวัลในวันที่ 22 ธันวาคม 2550 ณ บริเวณหน้าร้านบลิสเทล ช็อป ที่ห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ
ครั้งที่ 3 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 15-21 ธันวาคม 2550 และมีการจับรางวัลในวันที่ 29 ธันวาคม 2550 ณ บริเวณหน้าร้านบลิสเทล ช็อป ห้างสรรพสินค้า NSS ซีคอน สแควร์ ส่วนครั้งที่ 4 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 22-28 ธันวาคม 2550 และมีการจับรางวัลในวันที่ 5 มกราคม 2551 ณ บริเวณหน้าร้าน บลิสเทล ช็อป ที่ห้าง NSS ซีคอน สแควร์ ขณะที่ครั้งที่ 5 และ 6 มีการจับรางวัล ณ บริเวณหน้าร้าน บลิสเทล ช็อป ห้างสรรพสินค้า แฟชั่น ไอซ์แลนด์ โดยครั้งที่ 5 เริ่มรับคูปองตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2550 ถึง 4 มกราคม 2551 และมีการจับรางวัลในวันที่ 12 มกราคม 2551 และครั้งสุดท้าย ครั้งที่ 6 เริ่มรับคูปองวันที่ 5-15 มกราคม 2551 และมีการจับรางวัลในวันที่ 19 มกราคม 2551
สรุปตารางและระยะเวลาการจัดแคมเปญ : 1 ธันวาคม 2550 ถึง 15 มกราคม 2551
ครั้งที่ ระยะเวลารับคูปอง วันที่จับรางวัล สถานที่จับรางวัล
1 1-7 ธ.ค. 50 15 ธ.ค. 50 เดอะมอลล์ บางกะปิ
2 8-14 ธ.ค. 50 22 ธ.ค. 50 เดอะมอลล์ บางกะปิ
3 15-21 ธ.ค. 50 29 ธ.ค. 50 NSS ซีคอน สแควร์
4 22-28 ธ.ค. 50 5 ม.ค. 51 NSS ซีคอน สแควร์
5 29 ธ.ค. 50 - 4 ม.ค. 51 12 ม.ค. 51 แฟชั่น ไอซ์แลนด์
6 5-15 ม.ค. 51 19 ม.ค. 51 แฟชั่น ไอซ์แลนด์
“เรามั่นใจว่าแคมเปญครั้งนี้จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับบลิสเทลและไออีซีได้เป็นอย่างดี โดยมีการตั้งเป้ายอดขายร่วมกันตลอดรายการไว้ที่ 20,000 เครื่อง พร้อมกันนั้น เราวางแผนจะมีการจัดแคมเปญอื่นๆ ออกมาช่วยกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญ ปีหน้า 2551 ลูกค้าและประชาชนจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของบลิสเทลอีกมากมาย ซึ่งขณะนี้เราได้เตรียมการเอาไว้หมดแล้ว” นายอภิชาติกล่าวทิ้งท้าย
หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ :
นายวีรพงษ์ อัสดรธีรยุทธ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ
BLISS โทร. 0-2792-2222 ต่อ 2269 สายตรง 0-2792-2269 มือถือ 08-1375-7721 แฟกซ์. 0-2792-2202
อีเมล : VEERAPONG@BLISSTEL.COM
ข่าวชิ้นนี้เผยแพร่โดย ไทยพีอาร์ ดอทเน็ต
ค้นหาข่าวย้อนหลังมากกว่า 30 วัน ได้ที่ www.iqnewscenter.com
BLISSTEL จับมือ IEC และ WDS ดึงวัยโจ๋ถอยมือถือลุ้นรับฟีโน่ขับอวดแฟน
tags :
Ton- Admin
- จำนวนข้อความ : 127
Join date : 03/05/2009
: 48
http://cheat.zubzip.com/?cheat-%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD-Nokia-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81-Bliss-tel-497
กรุณาชั่งใจให้ดีก่อนจะตัดสินใจซื้อนะครับระวังจะเจอปัญหาแบบผม คือผมไปซื้อ Nokia 6233 ที่งานมหกรรมมือถือที่ศนย์ฯสิริกิต เมื่อวันที่ 11 กพ. 50 นี่เองปรากฏว่าใช้ได้เพียง 11 วันเท่านั้น มือถือเจ้ากรรมก็ไม่รับสัญญาณเอาดื้อๆลองติดต่อกับศูนย์ Bliss-tel ก็ให้เข้ามาที่ รามคำแหง 30 ที่ตึก IEC ก็ได้รับคำตอบว่าเขาเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายเท่านั้นหากเลยเวลา 7 วันไปแล้วก็จะพ้นความรับผิดชอบของเขา หากเกิดปัญหาขึ้นมาก็ควรเป็นความรับผิดชอบของผู้(โง่)ซื้อที่จะต้องนำเข้าศูนย์เพื่อซ้อมอีก 14 วัน(หลังจากที่ได้ใช้งานเพียง 11 วัน)และจะต้องเป็นหน้าที่ของศูนย์บริการหลังการขายแล้ว ส่วนของ Bliss-tel เมื่อรับเงินแล้วและพ้น 7 วันแล้วก็ไม่รับผิดชอบใดๆอีกต่อไป ดังนั้นหากคุณจะตัดสินใจซื้อมือถือครั้งต่อไปควรไตร่ตรองให้ดีก่อนจะต้องมาเสียคววามรู้สึกแบบผมนะครับ
Ton- Admin
- จำนวนข้อความ : 127
Join date : 03/05/2009
: 48
http://www.thaipr.net/nc/readnews.aspx?newsid=94F40F497566141368149D39C8E093D1&query=Ymxpc3N0ZWw=
CAT CDMA บุกตลาดโค้งสุดท้ายของปี 2552 ออกโฆษณาชุด “บรื้นๆ” 3G เร็ว แรง เพื่อสร้างความจดจำ และตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดสื่อสารไร้สาย เน้นตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก พร้อมจัดโปรโมชั่นเอาใจลูกค้า หวังภายในปี 2552 จะมีผู้ใช้บริการเพิ่มกว่า 500,000 ราย
นายวิโรจน์ โตเจริญวาณิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ (กลุ่มปฏิบัติการสื่อสารไร้สาย) สายงานธุรกิจสื่อสารไร้สาย บริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดโทรศัพท์มือถือ มีการแข่งขันกันสูงระหว่างผู้ให้บริการรายใหญ่ เพื่อเป็นการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้งานด้านข้อมูล (Data) ของผู้บริโภค CAT CDMA จึงเป็นอีกทางเลือกใหม่ ที่ให้บริการบนเทคโนโลยี 3G โดดเด่นแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น
“เราเป็นผู้ให้บริการ 3G รายแรกและรายเดียวในเมืองไทยในขณะนี้ ที่มีพื้นที่ให้บริการมากที่สุดครอบคลุม 51 จังหวัดของประเทศ” นายวิโรจน์ กล่าวย้ำ
ในส่วนของการทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เพื่อชูจุดเด่นในด้านความเป็นผู้นำอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง CAT CDMA จึงเน้นการสื่อสารสร้างการรับรู้ไปสู่ผู้บริโภค โดยประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อครบวงจรทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุท้องถิ่น บิลบอร์ด รวมถึงการออกทำกิจกรรมการตลาดในพื้นที่ต่างจังหวัด ล่าสุดได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ชุด "บรื้นๆ" ที่เน้นศักยภาพด้านผู้ให้บริการโครงข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สาย 3G สมบูรณ์แบบ ที่ให้ความเร็วในการดาวน์โหลดอัพโหลดข้อมูลได้สูงสุดถึง 3.1 Mbps. ซึ่งจะเร็วกว่า EDGE, GPRS กว่า10 เท่า ลูกค้าจึงสามารถใช้อินเทอร์เน็ตของ CAT CDMA ได้ทุกที่ ทุกเวลา แรง เร็ว เคลื่อนที่ไม่มีหลุด
นายวิโรจน์ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี CAT CDMA ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมากมาย เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าทั้งด้านโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ในการรักษาฐานลูกค้าเดิมและดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ให้มาใช้บริการ และรู้สึกได้ถึงความคุ้มค่าของโปรโมชั่น อาทิ โปรโมชั่นอินเทอร์เน็ตไร้สาย 3G Package เริ่มต้นที่เดือนละ 590 บาท ฟรีอินเทอร์เน็ต 20 ชม. หรืออินเทอร์เน็ตไม่จำกัดชั่วโมง เพียง 790 บาทต่อเดือน ส่วนโปรโมชั่นการโทร “คุ้มสุด ๆ” เริ่มต้นที่ 189 บาท โทรฟรีทุกเครือข่าย ตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง3โมงเย็น หรือโปรโมชั่นรับค่าโทรฟรี 1,200 บาท เมื่อซื้อเครื่องของ CAT CDMA เฉพาะรุ่นที่กำหนด ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ได้ขยายจุดจำหน่ายไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่อง ซิม หรือบัตรเติมเงิน ซึ่งมีช่องทางจัดจำหน่ายหลักที่สำนักงานบริการลูกค้ากสท 51 จังหวัด และขยายตลาดผ่านทางตัวแทนจำหน่าย เช่น IEC, I-Mobile และ Blisstel ซึ่งมีจุดจำหน่ายทั่วประเทศ
เรายังได้ทำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมควบคู่กันไป ล่าสุดได้นำเอาเทคโนโลยี 3G CDMA มาใช้เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินในรถพยาบาลเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี โดยความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงของ 3G CDMA ที่นำมาใช้กับอุปกรณ์ของรถพยาบาลจะเชื่อมต่อกับเครื่องส่งสัญญาณคลื่นหัวใจ ผ่านระบบส่งข้อมูลระยะทางไกลแบบ Real time ทำให้สามารถส่งสัญญาณคลื่นหัวใจของผู้ป่วยในรถพยาบาลไปให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรียกดูข้อมูลผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา พร้อมวางแผนการรักษา และสั่งการโต้ตอบช่วยเหลือผู้ป่วยขั้นต้นระหว่างรถพยาบาลกับโรงพยาบาลได้ทันที ดังนั้น การนำระบบดังกล่าวมาใช้ในครั้งนี้ จึงช่วยพัฒนาระบบสื่อสารทางไกลให้สามารถติดต่อกันได้อย่างต่อเนื่อง ทุกที่ ทุกเวลา ถือเป็นโอกาสอันดีที่เราได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือประชาชนและยกระดับคุณภาพด้านการสาธารณสุขของประเทศ นายวิโรจน์ กล่าวเสริม
นายวิโรจน์ กล่าวในตอนท้ายว่า “จากการที่เราเดินหน้ารุกตลาดอย่างหนัก คาดว่าปลายปีนี้จะมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นกว่า 500,000 ราย และเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพการให้บริการด้านสัญญาณเราได้เตรียมแผนขยายโครงข่ายกว่า 3,000 สถานีฐาน ซึ่งจะทำให้พื้นที่การให้บริการและประสิทธิภาพการรับส่งข้อมูลระบบ 3G ของ CAT CDMA สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
นำเสนอข่าวโดยบริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท โฟร์ฮันเดรท จำกัด : www.4h.co.th
รายละเอียดสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
คุณฑิตยา นาคทอง
คุณสิทธิกร เสงี่ยมโปร่ง โทร. 02-553-3161-3 Email : sitikorn@4h.co.th
นายวิโรจน์ โตเจริญวาณิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ (กลุ่มปฏิบัติการสื่อสารไร้สาย) สายงานธุรกิจสื่อสารไร้สาย บริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดโทรศัพท์มือถือ มีการแข่งขันกันสูงระหว่างผู้ให้บริการรายใหญ่ เพื่อเป็นการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้งานด้านข้อมูล (Data) ของผู้บริโภค CAT CDMA จึงเป็นอีกทางเลือกใหม่ ที่ให้บริการบนเทคโนโลยี 3G โดดเด่นแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น
“เราเป็นผู้ให้บริการ 3G รายแรกและรายเดียวในเมืองไทยในขณะนี้ ที่มีพื้นที่ให้บริการมากที่สุดครอบคลุม 51 จังหวัดของประเทศ” นายวิโรจน์ กล่าวย้ำ
ในส่วนของการทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เพื่อชูจุดเด่นในด้านความเป็นผู้นำอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง CAT CDMA จึงเน้นการสื่อสารสร้างการรับรู้ไปสู่ผู้บริโภค โดยประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อครบวงจรทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุท้องถิ่น บิลบอร์ด รวมถึงการออกทำกิจกรรมการตลาดในพื้นที่ต่างจังหวัด ล่าสุดได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ชุด "บรื้นๆ" ที่เน้นศักยภาพด้านผู้ให้บริการโครงข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สาย 3G สมบูรณ์แบบ ที่ให้ความเร็วในการดาวน์โหลดอัพโหลดข้อมูลได้สูงสุดถึง 3.1 Mbps. ซึ่งจะเร็วกว่า EDGE, GPRS กว่า10 เท่า ลูกค้าจึงสามารถใช้อินเทอร์เน็ตของ CAT CDMA ได้ทุกที่ ทุกเวลา แรง เร็ว เคลื่อนที่ไม่มีหลุด
นายวิโรจน์ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี CAT CDMA ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมากมาย เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าทั้งด้านโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ในการรักษาฐานลูกค้าเดิมและดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ให้มาใช้บริการ และรู้สึกได้ถึงความคุ้มค่าของโปรโมชั่น อาทิ โปรโมชั่นอินเทอร์เน็ตไร้สาย 3G Package เริ่มต้นที่เดือนละ 590 บาท ฟรีอินเทอร์เน็ต 20 ชม. หรืออินเทอร์เน็ตไม่จำกัดชั่วโมง เพียง 790 บาทต่อเดือน ส่วนโปรโมชั่นการโทร “คุ้มสุด ๆ” เริ่มต้นที่ 189 บาท โทรฟรีทุกเครือข่าย ตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง3โมงเย็น หรือโปรโมชั่นรับค่าโทรฟรี 1,200 บาท เมื่อซื้อเครื่องของ CAT CDMA เฉพาะรุ่นที่กำหนด ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ได้ขยายจุดจำหน่ายไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่อง ซิม หรือบัตรเติมเงิน ซึ่งมีช่องทางจัดจำหน่ายหลักที่สำนักงานบริการลูกค้ากสท 51 จังหวัด และขยายตลาดผ่านทางตัวแทนจำหน่าย เช่น IEC, I-Mobile และ Blisstel ซึ่งมีจุดจำหน่ายทั่วประเทศ
เรายังได้ทำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมควบคู่กันไป ล่าสุดได้นำเอาเทคโนโลยี 3G CDMA มาใช้เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินในรถพยาบาลเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี โดยความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงของ 3G CDMA ที่นำมาใช้กับอุปกรณ์ของรถพยาบาลจะเชื่อมต่อกับเครื่องส่งสัญญาณคลื่นหัวใจ ผ่านระบบส่งข้อมูลระยะทางไกลแบบ Real time ทำให้สามารถส่งสัญญาณคลื่นหัวใจของผู้ป่วยในรถพยาบาลไปให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรียกดูข้อมูลผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา พร้อมวางแผนการรักษา และสั่งการโต้ตอบช่วยเหลือผู้ป่วยขั้นต้นระหว่างรถพยาบาลกับโรงพยาบาลได้ทันที ดังนั้น การนำระบบดังกล่าวมาใช้ในครั้งนี้ จึงช่วยพัฒนาระบบสื่อสารทางไกลให้สามารถติดต่อกันได้อย่างต่อเนื่อง ทุกที่ ทุกเวลา ถือเป็นโอกาสอันดีที่เราได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือประชาชนและยกระดับคุณภาพด้านการสาธารณสุขของประเทศ นายวิโรจน์ กล่าวเสริม
นายวิโรจน์ กล่าวในตอนท้ายว่า “จากการที่เราเดินหน้ารุกตลาดอย่างหนัก คาดว่าปลายปีนี้จะมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นกว่า 500,000 ราย และเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพการให้บริการด้านสัญญาณเราได้เตรียมแผนขยายโครงข่ายกว่า 3,000 สถานีฐาน ซึ่งจะทำให้พื้นที่การให้บริการและประสิทธิภาพการรับส่งข้อมูลระบบ 3G ของ CAT CDMA สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
นำเสนอข่าวโดยบริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท โฟร์ฮันเดรท จำกัด : www.4h.co.th
รายละเอียดสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
คุณฑิตยา นาคทอง
คุณสิทธิกร เสงี่ยมโปร่ง โทร. 02-553-3161-3 Email : sitikorn@4h.co.th
Ton- Admin
- จำนวนข้อความ : 127
Join date : 03/05/2009
: 48
รายชื่อผู้ถือหุ้น
1. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 141,960,772 6.01
2. นายเมธา รังสิยาวรานนท์ 60,663,653 2.57
3. น.ส.วราภรณ์ หาญไกรวิไลย์ 39,000,000 1.65
4. AUDIOVOX CORPORATION 36,250,000 1.53
5. นายฐาคณิษฐ์ พรทองประเสริฐ 30,000,000 1.27
6. นางอำไพ หาญไกรวิไลย์ 29,000,000 1.23
7. นายวีรโชติ พรสมหมาย 29,000,000 1.23
8. นายอภิชาติ ไชยปรมัตถ์ 26,287,900 1.11
9. นายชาลี ระยามาศ 25,000,000 1.06
10. นายวชิระ สัจเดว์ 21,408,900 0.91
11. นายภาณุพงศ์ ศักดาทร 21,150,000 0.90
12. นายวริศ ยงสกุล 21,000,000 0.89
13. บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อผู้ฝาก 20,053,025 0.85
14. นางลาวัลย์ สุขสวี 18,900,000 0.80
15. นายญาณธน สิมะวานิชกุล 17,436,266 0.74
16. นายบุญรัตน์ เอื้อสุดกิจ 16,454,083 0.70
17. นายสุเมธ ธรรมโชติ 15,043,700 0.64
18. นายพีระเมศร์ พรวงศ์ทอง 15,036,233 0.64
19. นายสมชาย อัคควัสกุล 15,004,150 0.64
20. นายโกสินธุ์ สันต์สวัสดิ์ 14,673,825 0.62
21. นายกมล แสงทองพินิจ 14,500,000 0.61
22. นายบุญเกียรติ เอื้อสุดกิจ 14,185,334 0.60
23. น.ส.นันท์ปภัสร์ ปิยพุฒินันท์ 13,850,000 0.59
24. นายอนุชิต จางไววิทย์ 13,594,266 0.58
25. นายเกื้อกูล พึ่งวงศ์ญาติ 13,120,000 0.56
26. นายวิบูลย์ คณะพงษา 13,000,000 0.55
27. นายวิโรจน์ จิระพงษ์ตระกูล 12,885,000 0.55
28. นายมณฑล แซ่เอี๊ยบ 12,750,000 0.54
29. นายวันชัย สิริสินธร 12,000,000 0.51
30. พล.ต.ต.อุทิศ พงษ์พานิช 12,000,000 0.51
31. นายสุระพงศ์ ถนอมบูรณ์เจริญ 11,821,043 0.50
2. นายเมธา รังสิยาวรานนท์ 60,663,653 2.57
3. น.ส.วราภรณ์ หาญไกรวิไลย์ 39,000,000 1.65
4. AUDIOVOX CORPORATION 36,250,000 1.53
5. นายฐาคณิษฐ์ พรทองประเสริฐ 30,000,000 1.27
6. นางอำไพ หาญไกรวิไลย์ 29,000,000 1.23
7. นายวีรโชติ พรสมหมาย 29,000,000 1.23
8. นายอภิชาติ ไชยปรมัตถ์ 26,287,900 1.11
9. นายชาลี ระยามาศ 25,000,000 1.06
10. นายวชิระ สัจเดว์ 21,408,900 0.91
11. นายภาณุพงศ์ ศักดาทร 21,150,000 0.90
12. นายวริศ ยงสกุล 21,000,000 0.89
13. บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อผู้ฝาก 20,053,025 0.85
14. นางลาวัลย์ สุขสวี 18,900,000 0.80
15. นายญาณธน สิมะวานิชกุล 17,436,266 0.74
16. นายบุญรัตน์ เอื้อสุดกิจ 16,454,083 0.70
17. นายสุเมธ ธรรมโชติ 15,043,700 0.64
18. นายพีระเมศร์ พรวงศ์ทอง 15,036,233 0.64
19. นายสมชาย อัคควัสกุล 15,004,150 0.64
20. นายโกสินธุ์ สันต์สวัสดิ์ 14,673,825 0.62
21. นายกมล แสงทองพินิจ 14,500,000 0.61
22. นายบุญเกียรติ เอื้อสุดกิจ 14,185,334 0.60
23. น.ส.นันท์ปภัสร์ ปิยพุฒินันท์ 13,850,000 0.59
24. นายอนุชิต จางไววิทย์ 13,594,266 0.58
25. นายเกื้อกูล พึ่งวงศ์ญาติ 13,120,000 0.56
26. นายวิบูลย์ คณะพงษา 13,000,000 0.55
27. นายวิโรจน์ จิระพงษ์ตระกูล 12,885,000 0.55
28. นายมณฑล แซ่เอี๊ยบ 12,750,000 0.54
29. นายวันชัย สิริสินธร 12,000,000 0.51
30. พล.ต.ต.อุทิศ พงษ์พานิช 12,000,000 0.51
31. นายสุระพงศ์ ถนอมบูรณ์เจริญ 11,821,043 0.50
แก้ไขล่าสุดโดย Ton เมื่อ Sat Jan 23, 2010 12:15 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
Ton- Admin
- จำนวนข้อความ : 127
Join date : 03/05/2009
: 48
Re: BM607 - BLISS
Bliss-Tel Company Limited started its operation 15 years ago as a wire line, wireless home telephones and pager importer and distributor.
Today, Bliss-Tel Public Company Limited is the country's leading mobile phone and communication retailer. Now one of the fastest growing retailers on the high street, Bliss-Tel prides itself on constantly being one of the firsts to introduce quality products, superior services and support to valued customers.
บริษัท บลิส-เทล จำกัด เริ่มเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ 15 ปีก่อนโดยทำธุรกิจนำเข้า และจัดจำหน่ายโทรศัพท์บ้านแบบมีสายและไร้สาย และวิทยุติดตามตัว
ปัจจุบันนี้ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทผู้จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์สื่อสารชั้นนำของประเทศที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่ง และเป็นหนึ่งในบริษัทที่มอบผลิตภัณฑ์คุณภาพ การบริการและการสนับสนุนที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้า
Management Team
พลโทอมฤทธิ์ สุมะโน LT.Gen.Umarit Sumano ประธานกรรมการ
นางสัณห์จุฑา วิชชาวุธ Mrs. Sunjutha Witchawut ประธานกรรมการบริหาร
นายอรรถวิชญ์ เอกธนิตพงษ์ Mr. Attavit Ektanitphong กรรมการผู้จัดการ
นางสาวเพ็ญแข เกตุแก้ว Miss Penkae Katekaew กรรมการ
นายชาติชาย งามอักษร Mr. Chatchai Ngamaksorn ประธานกรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบ
นายเสถียร เนตรจันทร์เรือง Mr. Sathian Netchanruang กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ
นายบุญรัตน์ วิญญุกานนท์ Mr. Boonrat Winyukanon กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ
Focus on strategic and operational
excellence with the rate of annual
growth no less than that of the mobile
phone retail industry.
Increase market share consistently
by providingcustomers with superior
products and services that satisfy
their needs.
Determine on the best interests of the
stockholders.
บริษัทมีเป้าหมายที่เพิ่มรายได้จาก
การขายสินค้า และการให้บริการ
อย่างต่อเนื่องในอัตราไม่ต่ำกว่า
อัตราการเจริญเติบโตของ
อุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่
บริษัทมีเป้าหมายจะเพิ่มส่วนแบ่งทาง
การตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยการตอบ
สนองความต้องการของลูกค้า ทั้งใน
ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ
บริษัทมีเป้าหมายในการสร้างผลตอบ
แทนสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้น
Name
Address
Telephone
Facsimile
Business
Website
Email
: Bliss-Tel Public
Company Limited
: 390 Ramkhamhaeng
RD. 4th Floor,
HUAMARK,
BANGKAPI,
BANGKOK,
: +66 2792 2222 ,
: +66 2792 2290
: Mobile phone and
communications
retailer
: www.blisstel.com
: care@blisstel.com
Since its establishment, Bliss-Tel's operations have grown by leaps and bounds. Turnover of the company amounted to Baht7,295.61 million in 2003, representing an increase of 265.93 percent over that of the corresponding period in the previous year. In the first half of 2004 alone, the company announced a 41.87 percent increase in sales revenue to Baht4,678.81 million - up from Baht3,297.89 million on the previous years.
Bliss-Tel's shareholders passed a resolution to increase the company's registered capital from Baht150 million to Baht230 million by issuing 80,000,000 new shares at par 1 Baht per shared by offering 70,000,000 shared at the initial public offering 10,000,000 shared to be set aside and offered to directors and officers of Bliss-Tel.
The money raised in this offering will be used to repay bank's loans, to support the company's retail network expansion plan and to be used as the company's working capital. The listing with the Stock Exchange of Thailand will provide much better visibility and liquidity for the company as well as increase more public awareness in the company and its retailing activities.
The common shares of Bliss-Tel Public Company Limited will begin trading on The Stock Exchange of Thailand on Monday December 13, 2004.
นับตั้งแต่การก่อตั้ง การดำเนินงานของบลิส-เทลได้เติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยมีรายได้จากการขายในปี 2546 เพิ่มขึ้นเป็น 7,295.61 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 265.93 กับช่วงเดียวกันของปี 2545 ในช่วงหกเดือนแรกปี 2547 นี้ บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 4,678.81 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มร้อยละ 41.87 จาก ยอดขาย
รวม 3,297.89 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2546
เงินที่ได้จากการออกหุ้นสามัญจะนำไปใช้ในการชำระเงินกู้ยืมจากธนาคารเพื่อลดค่าใช้จ่ายในเรื่องดอกเบี้ย การขยายสาขานำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ผู้ถือหุ้นของบลิส-เทลจึงลงมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 150 ล้านบาท เป็น 230 ล้านบาท การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยช่วยส่งเสริมสภาพคล่อง และทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้นทั้งในส่วนของบริษัทเองและการดำเนินธุรกิจ
หุ้นสามัญของบริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) จะเริ่มเปิดจำหน่ายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกในวันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2547
Excellent services make the essential difference. Bliss-Tel understands the challenges in the industry and has offered the services to specifically meet the unique needs of customers.
Bliss-Tel provides its customers with a comprehensive range of products, services and after-sales care that cannot be found elsewhere.
Bliss-Tel (Public) Company Limited is one of the largest authorized direct retail partners of the premier manufacturers and service carriers worldwide including Nokia, Samsung, Motorola and other ledding brands. The company enables to bring customers better product knowledge, greater product ranges, and the best rate plans available.
Customer can also select products of their choices, purchase them and get Q&A services through www.blisstel.com
Through its 111 state-of-the-art Bliss-Tel Shop and Bliss-Tel Express (as at June 30, 2004) located provides you with substitute mobile phone as an option. Bliss-Tel offers fast turn around time on repairs and is dedicated to providing knowledgeable services as always.
นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่ต้องการสั่งซื้อสินค้า และรับบริการถาม-ตอบปัญหาข้อข้องใจต่างๆ ผ่านทางเว็บไซต์ www.blisstel.com ก็ง่ายและสะดวกเช่นกัน
ด้วยการให้บริการที่ครบวงจรจากร้าน Bliss-Tel Shop และ Bliss-Tel Express จำนวน 111 แห่ง (ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2547) ร้านค้าปลีก 136 แห่ง และผู้แทนจำหน่ายกว่า 200 รายทั่วประเทศ บลิส-เทล สามารถ มอบระดับของการบริการที่เหนือคู่แข่งขันในอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศ
บลิส-เทลวางมาตรฐานร้านค้าปลีกทุกแห่งเพื่อทำให้สามารถแข่งขันทางด้านราคา และสามารถให้การดูแลอย่างเสมอต้นเสมอปลายแก่ลูกค้า ทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญพร้อมมอบคำแนะนำที่ช่วยให้คุณสามารถเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความจำเป็นของคุณ
ผลิตภัณฑ์ของบลิส-เทลทั้งหมดจะมีการรับประกันเป็นเวลา 1 ปี พร้อมบริการรับซ่อมโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วโดยมีบริการเครื่องสำรองสำหรับลูกค้าที่ต้องการ และสามารถให้คำแนะนำ และความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้อง และเพียงพอ
around the country well as its 136 points of sales and more than 200 dealers nation wide, Bliss-Tel provides a level of service that makes it stand out in the competitive wireless industry.
Bliss-Tel standardized each and every retail outlets to provide competitive pricing and consistent support. All our products can be demonstrated instore by an expert sales team who will help find the products best suited for the customers' needs.
All Bliss-Tel products are warranted for One (1) Year against defects and workmanship. Defective products or parts will be repaired or replaced by Bliss-Tel shops or its appointed agents. Bliss-Tel also การบริการที่ยอดเยี่ยมทำให้เกิดความแตกต่างที่สำคัญขึ้น บลิส-เทล เข้าใจความท้าทายในอุตสาหกรรม และเสนอการบริการที่ตรงตามความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละราย
บลิส-เทลนำเสนอผลิตภัณฑ์ การบริการทั้งก่อนและหลังการขายหลากหลายประเภทที่คุณไม่สามารถหาได้จากที่อื่น
บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) ได้รับการแต่งตั้งเป็น Direct Retail Partner จากผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ตราผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น Nokia Samsung Motorola และอีกหลายตราผลิตภัณฑชั้นนำ ซึ่งทำให้บริษัทสามารถคัดเลือกผลิตภัณฑ์ มาจำหน่ายได้ตรงความต้องการครอบคลุม และครบวงจรมากยิ่งขึ้น
Today, Bliss-Tel Public Company Limited is the country's leading mobile phone and communication retailer. Now one of the fastest growing retailers on the high street, Bliss-Tel prides itself on constantly being one of the firsts to introduce quality products, superior services and support to valued customers.
บริษัท บลิส-เทล จำกัด เริ่มเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ 15 ปีก่อนโดยทำธุรกิจนำเข้า และจัดจำหน่ายโทรศัพท์บ้านแบบมีสายและไร้สาย และวิทยุติดตามตัว
ปัจจุบันนี้ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทผู้จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์สื่อสารชั้นนำของประเทศที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่ง และเป็นหนึ่งในบริษัทที่มอบผลิตภัณฑ์คุณภาพ การบริการและการสนับสนุนที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้า
Management Team
พลโทอมฤทธิ์ สุมะโน LT.Gen.Umarit Sumano ประธานกรรมการ
นางสัณห์จุฑา วิชชาวุธ Mrs. Sunjutha Witchawut ประธานกรรมการบริหาร
นายอรรถวิชญ์ เอกธนิตพงษ์ Mr. Attavit Ektanitphong กรรมการผู้จัดการ
นางสาวเพ็ญแข เกตุแก้ว Miss Penkae Katekaew กรรมการ
นายชาติชาย งามอักษร Mr. Chatchai Ngamaksorn ประธานกรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบ
นายเสถียร เนตรจันทร์เรือง Mr. Sathian Netchanruang กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ
นายบุญรัตน์ วิญญุกานนท์ Mr. Boonrat Winyukanon กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ
Focus on strategic and operational
excellence with the rate of annual
growth no less than that of the mobile
phone retail industry.
Increase market share consistently
by providingcustomers with superior
products and services that satisfy
their needs.
Determine on the best interests of the
stockholders.
บริษัทมีเป้าหมายที่เพิ่มรายได้จาก
การขายสินค้า และการให้บริการ
อย่างต่อเนื่องในอัตราไม่ต่ำกว่า
อัตราการเจริญเติบโตของ
อุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่
บริษัทมีเป้าหมายจะเพิ่มส่วนแบ่งทาง
การตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยการตอบ
สนองความต้องการของลูกค้า ทั้งใน
ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ
บริษัทมีเป้าหมายในการสร้างผลตอบ
แทนสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้น
Name
Address
Telephone
Facsimile
Business
Website
: Bliss-Tel Public
Company Limited
: 390 Ramkhamhaeng
RD. 4th Floor,
HUAMARK,
BANGKAPI,
BANGKOK,
: +66 2792 2222 ,
: +66 2792 2290
: Mobile phone and
communications
retailer
: www.blisstel.com
: care@blisstel.com
Since its establishment, Bliss-Tel's operations have grown by leaps and bounds. Turnover of the company amounted to Baht7,295.61 million in 2003, representing an increase of 265.93 percent over that of the corresponding period in the previous year. In the first half of 2004 alone, the company announced a 41.87 percent increase in sales revenue to Baht4,678.81 million - up from Baht3,297.89 million on the previous years.
Bliss-Tel's shareholders passed a resolution to increase the company's registered capital from Baht150 million to Baht230 million by issuing 80,000,000 new shares at par 1 Baht per shared by offering 70,000,000 shared at the initial public offering 10,000,000 shared to be set aside and offered to directors and officers of Bliss-Tel.
The money raised in this offering will be used to repay bank's loans, to support the company's retail network expansion plan and to be used as the company's working capital. The listing with the Stock Exchange of Thailand will provide much better visibility and liquidity for the company as well as increase more public awareness in the company and its retailing activities.
The common shares of Bliss-Tel Public Company Limited will begin trading on The Stock Exchange of Thailand on Monday December 13, 2004.
นับตั้งแต่การก่อตั้ง การดำเนินงานของบลิส-เทลได้เติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยมีรายได้จากการขายในปี 2546 เพิ่มขึ้นเป็น 7,295.61 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 265.93 กับช่วงเดียวกันของปี 2545 ในช่วงหกเดือนแรกปี 2547 นี้ บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 4,678.81 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มร้อยละ 41.87 จาก ยอดขาย
รวม 3,297.89 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2546
เงินที่ได้จากการออกหุ้นสามัญจะนำไปใช้ในการชำระเงินกู้ยืมจากธนาคารเพื่อลดค่าใช้จ่ายในเรื่องดอกเบี้ย การขยายสาขานำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ผู้ถือหุ้นของบลิส-เทลจึงลงมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 150 ล้านบาท เป็น 230 ล้านบาท การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยช่วยส่งเสริมสภาพคล่อง และทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้นทั้งในส่วนของบริษัทเองและการดำเนินธุรกิจ
หุ้นสามัญของบริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) จะเริ่มเปิดจำหน่ายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกในวันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2547
Excellent services make the essential difference. Bliss-Tel understands the challenges in the industry and has offered the services to specifically meet the unique needs of customers.
Bliss-Tel provides its customers with a comprehensive range of products, services and after-sales care that cannot be found elsewhere.
Bliss-Tel (Public) Company Limited is one of the largest authorized direct retail partners of the premier manufacturers and service carriers worldwide including Nokia, Samsung, Motorola and other ledding brands. The company enables to bring customers better product knowledge, greater product ranges, and the best rate plans available.
Customer can also select products of their choices, purchase them and get Q&A services through www.blisstel.com
Through its 111 state-of-the-art Bliss-Tel Shop and Bliss-Tel Express (as at June 30, 2004) located provides you with substitute mobile phone as an option. Bliss-Tel offers fast turn around time on repairs and is dedicated to providing knowledgeable services as always.
นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่ต้องการสั่งซื้อสินค้า และรับบริการถาม-ตอบปัญหาข้อข้องใจต่างๆ ผ่านทางเว็บไซต์ www.blisstel.com ก็ง่ายและสะดวกเช่นกัน
ด้วยการให้บริการที่ครบวงจรจากร้าน Bliss-Tel Shop และ Bliss-Tel Express จำนวน 111 แห่ง (ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2547) ร้านค้าปลีก 136 แห่ง และผู้แทนจำหน่ายกว่า 200 รายทั่วประเทศ บลิส-เทล สามารถ มอบระดับของการบริการที่เหนือคู่แข่งขันในอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศ
บลิส-เทลวางมาตรฐานร้านค้าปลีกทุกแห่งเพื่อทำให้สามารถแข่งขันทางด้านราคา และสามารถให้การดูแลอย่างเสมอต้นเสมอปลายแก่ลูกค้า ทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญพร้อมมอบคำแนะนำที่ช่วยให้คุณสามารถเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความจำเป็นของคุณ
ผลิตภัณฑ์ของบลิส-เทลทั้งหมดจะมีการรับประกันเป็นเวลา 1 ปี พร้อมบริการรับซ่อมโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วโดยมีบริการเครื่องสำรองสำหรับลูกค้าที่ต้องการ และสามารถให้คำแนะนำ และความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้อง และเพียงพอ
around the country well as its 136 points of sales and more than 200 dealers nation wide, Bliss-Tel provides a level of service that makes it stand out in the competitive wireless industry.
Bliss-Tel standardized each and every retail outlets to provide competitive pricing and consistent support. All our products can be demonstrated instore by an expert sales team who will help find the products best suited for the customers' needs.
All Bliss-Tel products are warranted for One (1) Year against defects and workmanship. Defective products or parts will be repaired or replaced by Bliss-Tel shops or its appointed agents. Bliss-Tel also การบริการที่ยอดเยี่ยมทำให้เกิดความแตกต่างที่สำคัญขึ้น บลิส-เทล เข้าใจความท้าทายในอุตสาหกรรม และเสนอการบริการที่ตรงตามความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละราย
บลิส-เทลนำเสนอผลิตภัณฑ์ การบริการทั้งก่อนและหลังการขายหลากหลายประเภทที่คุณไม่สามารถหาได้จากที่อื่น
บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) ได้รับการแต่งตั้งเป็น Direct Retail Partner จากผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ตราผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น Nokia Samsung Motorola และอีกหลายตราผลิตภัณฑชั้นนำ ซึ่งทำให้บริษัทสามารถคัดเลือกผลิตภัณฑ์ มาจำหน่ายได้ตรงความต้องการครอบคลุม และครบวงจรมากยิ่งขึ้น
^Pooh^- จำนวนข้อความ : 1
Join date : 25/05/2009
ข่าว from P'judy
บลิสเทลฯแย้ม มากกว่า1รายสนซื้อเพิ่มทุน
วานนี้ บริษัท บลิสเทล (BLISS) สามารถจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นได้สำเร็จ หลังจากเลื่อนมาครั้งก่อน เพราะผู้ถือหุ้นมาไม่ครบองค์ประชุม โดยการประชุมครั้งนี้ผู้ถือหุ้นได้ลงมติในทุกวาระ โดยเฉพาะวาระเพิ่มทุนอีกจำนวน 263 ล้านบาท ทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 569 ล้านบาท เพื่อเสนอขายให้กับผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจง (พีพี)
นายสิทธิภาคย์ ธารากุล กรรมการผู้จัดการ BLISS เปิดเผยว่า บริษัทกำลังคัดเลือกผู้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่มากกว่า 1 ราย ซึ่งเชื่อว่าผู้ถือหุ้นใหม่จะช่วยให้บริษัทมีกำไรได้ภายในปี 2553 แม้ปัจจุบันมีขาดทุนสะสม 357 ล้านบาทก็ตาม
สำหรับแผนธุรกิจของปี 2553 จะต้องรอผลการขายหุ้นเพิ่มทุน เพื่อที่จะทราบว่าผู้ถือหุ้นใหม่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนหรือมีกลยุทธ์ใดบ้าง แต่โดยรวมเชื่อว่าผู้ถือหุ้น รายใหม่จะสามารถเข้ามาต่อยอดธุรกิจได้
ด้านจุดแข็งของบริษัทจะดึงดูดให้มีคนเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุน เนื่องจากเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจมานาน มียอดขายที่สูง และ มีจุดจำหน่ายโทรศัพท์ที่มาก น่าจะดึงให้ผู้ลงทุนคำนึงถึงบริษัทเป็นอันดับต้นๆ
อย่างไรก็ตาม หุ้นเพิ่มทุนพีพี บริษัทอาจไม่จำเป็นต้องขายหมดทั้งจำนวนในครั้งเดียว ซึ่งบริษัทมั่นใจจะสามารถขายได้ทั้งหมดภายใน 1 ปีนี้ได้
สำหรับเม็ดเงินที่จะได้รับจากการ เพิ่มทุนจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน 1.นำไปลงทุนเพื่อขยายธุรกิจอื่น 2.นำไปชำระหนี้ ปัจจุบันเหลือหนี้เพียงเล็กน้อยกับธนาคารทหารไทย (TMB) เพียงแห่งเดียว 3.ใช้หมุนเวียนธุรกิจ
เลขที่ข่าว 662436
วันที่ 12 ม.ค. 2553
หมวด Financial and Capital Market, Stock
ชื่อบุคคล สิทธิภาคย์ ธารากุล
หนังสือพิมพ์[หน้า] โพสต์ทูเดย์ [ B11 ]
ภาวะตลาดหุ้นรอบปี 2552 ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 63% และมีการเคลื่อนไหวขึ้นลงแรง ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของนักลงทุนที่นิยมเก็งกำไร แต่หุ้นตัวไหนที่มีแรงเก็งกำไรเกินกว่าสภาพปกติ ตลาดหลักทรัพย์ได้มีมาตรการสกัดแรงเก็งกำไรดังกล่าว โดยหุ้นตัวไหนที่เข้าข่ายตามเกณฑ์หุ้นที่มีปริมาณหมุนเวียนมาก หรือ turnover list ได้แก่ หุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือเอ็มเอไอ ที่มี turnover ratio มากกว่าหรือเท่ากับ 50% และพีอีเรโชว์ มากกว่าหรือเท่ากับ 50 เท่าหรือขาดทุน และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมากกว่าหรือเท่ากับ 100 ล้านบาท
โดยหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายข้อกำหนดดังกล่าวนั้น บริษัทสมาชิก (โบรกเกอร์) ต้องให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนที่จะซื้อหลักทรัพย์นั้น (บัญชี cash balance) เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 รอบการประกาศรายชื่อหรือจนกว่าหลักทรัพย์นั้นๆ จะพ้นจากรายชื่อหุ้นที่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด หากในรอบระยะเวลาที่ 3 ยังติดอยู่ในเกณฑ์ จะต้องให้มีผลต่อไปอีก 1 รอบการประกาศรายชื่อ
ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ในรอบปี 2552 พบว่ามีหุ้นที่เข้าข่าย turnover list และถูกสั่งซื้อขายเฉพาะในบัญชีเงินสดเท่านั้น มีจำนวน 20 หลักทรัพย์ แบ่งเป็น 17 หุ้น และ 3 ใบสำคัญแสดงสิทธิ์ (วอร์แรนท์) ที่จะซื้อหุ้นสามัญ
จากข้อมูลดังกล่าวพบว่า รอบปี 2552 หุ้นยานภัณฑ์ (YNP) มีการเก็งกำไรจนกระทั่ง ถูกสั่งซื้อขายในบัญชีเงินสดมากสุด 3 ครั้ง เพียงบริษัทเดียว แต่มีอีก 5 บริษัทที่ถูกสั่งให้เทรดเงินสด 2 รอบ ได้แก่ หุ้นบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) หุ้นบริษัทโกลเบล็ก (GBX) หุ้นบริษัทเงินทุน สินอุตสาหกรรม (SICCO) หุ้นบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE)
ขณะที่หุ้นบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ ถูกสั่งให้เทรดเงินสดเพียงครั้งเดียว ประกอบด้วย หุ้นบริษัททีทีแอนด์ที (TT&T) บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC) บริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) หรือ ESSO หุ้นจีสตีล (GSTEEL) หุ้น บล.บีฟิท (BSEC) หุ้นไทยคม (THCOM) หุ้นไทยบริการอุตสาหกรรม (TIES) หุ้นดราก้อน วัน (D1) หุ้นธนาคารทหารไทย (TMB) หุ้นบลิสเทล (BLISS) หุ้นอีเทอเนิล เอนเนอยี (EE) และหุ้นซี.ไอ.กรุ๊ป (CIG)
สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นยานภัณฑ์ในรอบปี 2552 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 238.46% จากราคา 0.26 บาท เป็น 0.88 บาท ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวสูงสุดที่ 1.40 บาท ณ 25 พ.ค.2552 ต่ำสุดที่ 0.26 บาท ณ 3 มี.ค.2552 ราคาเฉลี่ย 0.87 บาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า การที่ราคาหุ้นยังคงปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะถูกตลาดหลักทรัพย์ สั่งให้ซื้อขายในบัญชีเงินสดแสดงให้เห็นว่ามาตรการดังกล่าว ไม่สามารถควบคุมแรงเก็งกำไรของนักลงทุนได้ และต้นเหตุของการเก็งกำไร น่าจะเกิดจากกระแสข่าวลือที่ถูกปล่อยข่าวมาเป็นระยะ ซึ่งหุ้นยานภัณฑ์เริ่มต้นจากช่วงปลายเดือนมี.ค.2552 มีข่าวกระจายตามห้องค้า เกี่ยวกับการเข้าร่วมลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ที่สนใจติดต่อขอซื้อหุ้นของบริษัท ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงจนกระทั่ง บริษัทต้องออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว แต่แรงเก็งกำไร ยังหนาแน่นต่อเนื่อง จนถึงต้นเดือนเม.ย. บริษัทได้รายงานการขายสินทรัพย์ บริษัท วาย เอส ภัณฑ์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยให้แก่บริษัท ซังโกะ (ประเทศญี่ปุ่น) มูลค่ารวม 651.32 ล้านบาท ซึ่งข่าวดังกล่าวน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้หุ้นปรับตัวขึ้นในครั้งนั้น และตลาดหลักทรัพย์ก็สั่งให้ซื้อขายได้เฉพาะบัญชีเงินสดตั้งแต่วันที่ 4-22 พ.ค.2552
ต่อมาเดือนก.ค.2552 ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นแรงอีกครั้ง และบริษัทได้ออกมาปฏิเสธข่าวอีกครั้ง กระแสข่าวลือว่ามีบริษัทไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี และหรือนักลงทุนรายใหญ่ อุตสาหกรรมยานยนต์ จะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทยานภัณฑ์ ซึ่งบริษัทชี้แจงว่าไม่เป็นความจริงและไม่มีการเจรจา แต่ราคาหุ้นยังคงปรับตัวขึ้นแรงจนตลาดสั่งให้ซื้อขายเฉพาะบัญชีเงินสด ในระหว่างตั้งแต่ 17 ส.ค. ถึง 4 ก.ย.2552 เป็นครั้งที่สองในรอบปีนี้
เดือน ก.ย.2552 บริษัทได้รายงานการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท โดยผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท คือ นางจำลอง พันธ์พาณิชย์ ได้ทำการจำหน่ายหุ้นบางส่วนที่ถือครองให้แก่นายชาญ เลิศประเสริฐภากร จำนวน 189.81 ล้านหุ้น คิดเป็น 11.86% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด 1.6 พันล้านหุ้น ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ นางจำลอง พันธ์พาณิชย์ สัดส่วนถือหุ้นเดิม 502.99 ล้านหุ้น คิดเป็น 31.44% ของหุ้นจำนวน 1.6 พันล้านหุ้น เมื่อจำหน่ายหุ้นแล้ว สัดส่วนการถือหุ้นคงเหลือ 313.18 ล้านหุ้นคิดเป็น 19.57% ของหุ้นจำนวน 1.6 พันล้านหุ้น
นายชาญ เลิศประเสริฐภากร สัดส่วนการถือหุ้นเดิม 3.6 พันล้านหุ้น คิดเป็น 0.23% ของหุ้นจำนวน 1.6 พันล้านหุ้น เมื่อรับซื้อหุ้นแล้ว สัดส่วนการถือหุ้นเป็น 193.41 ล้านหุ้นคิดเป็น 12.09% ของหุ้นจำนวน 1.6 พันล้านหุ้น ทั้งนี้การถือหุ้นของกลุ่มตระกูลพันธ์พาณิชย์ (รวมการถือหุ้นของนางจำลอง พันธ์พาณิชย์แล้ว) สัดส่วนการถือหุ้นเดิม 681.52 ล้านหุ้นคิดเป็น 42.60% ของหุ้นจำนวน 1.6 พันล้านหุ้น เมื่อจำหน่ายหุ้นแล้ว การถือหุ้นเป็น 491.71 ล้านหุ้น คิดเป็น 30.73% ของหุ้นจำนวน 1.6 พันล้านหุ้น
จากรายละเอียดสัดส่วนการถือหุ้นที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารการจัดการภายในของบริษัทแต่อย่างใด กล่าวคือ นายชาญ เลิศประเสริฐภากร ไม่ได้ประสงค์ที่จะบริหารและมิได้ส่งตัวแทนเข้ามาเป็นกรรมกรรมการของบริษัทแต่อย่างใด ดังนั้น ในการบริหารจัดการภายใน รวมถึงกำหนดเป้าหมาย แนวทาง นโยบาย และแผนงานของบริษัท ควบคุมกำกับดูแลการบริหารและการจัดการ ยังเป็นอำนาจของคณะกรรมการบริษัทชุดเดิม ขณะที่ราคาหุ้นก็ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จนเข้าข่ายเกณฑ์สั่งให้ซื้อขายในบัญชีเงินสด ตั้งแต่ 12-30 ต.ค.2552
จากข้อมูลดังกล่าวนำมาประเมิน จะพบว่าการที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรง จนทำให้ต้องเข้าข่ายเกณฑ์ turnover list เกิดจากกระแสข่าวลือที่กลายเป็นข่าวจริงในที่สุด เพราะจะเห็นว่าข่าวลือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.จนกระทั่งถึงเดือนก.ย. สลับกันไปมา และตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้นหากนักลงทุนเข้ามาลงทุน และซื้อขายได้ถูกจังหวะก็จะได้รับผลตอบแทนในอัตราที่สูงไม่น้อย
นอกจากนี้ยังทำให้ตั้งข้อสังเกตได้ว่า กระแสข่าวลือที่เกิดขึ้นก่อนทำรายการจริง นักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับดีลการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทยานภัณฑ์ในครั้งนี้ จะมีส่วนรู้เห็นเข้าร่วมกระบวนการเก็งกำไรด้วยหรือไม่ เพราะถ้าย้อนหลังข้อมูลไปเมื่อ 4 ปีก่อน พบว่า กลุ่มบุคคลที่ทำรายการในครั้งนี้เคยถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งปรับ มูลค่ารวม 40 ล้านบาท กรณีสร้างราคาหุ้นของบริษัทยานภัณฑ์ ในปี 2548 นักลงทุนที่คิดจะเข้ามาลงทุนหุ้นเก็งกำไร คงต้องทำใจไว้รับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นชนิดไม่รู้ตัวได้ตลอดเวลา
เลขที่ข่าว 661364
วันที่ 6 ม.ค. 2553
หมวด Automotive and Accessories
ชื่อบุคคล จำลอง พันธ์พาณิชย์ ชาญ เลิศประเสริฐภากร
บลิส-เทลดิ้น แก้หนี้แบงก์ภาระ190ล.
นายสิทธิภาคย์ ธารากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลิส-เทล (BLISS) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 ก.ย. 2552 บริษัทมีเงินเบิกเกินบัญชีธนาคารและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินจำนวน 190 ล้านบาท
สำหรับเงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลอื่น คือ นายถนอม ถนอมบูรณ์เจริญ จำนวนเงิน 20 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดชำระคืนในวันที่ 4 ธ.ค. 2552 และเงินกู้ยืมดังกล่าวค้ำประกันโดยกรรมสิทธิ์ห้องชุด 120 ห้องนั้น บริษัทได้ชำระคืนเงินกู้ยืมแล้วตามกำหนด และได้จดทะเบียนไถ่ถอนห้องชุดทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว
ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ถือหุ้นมาร่วมประชุมจำนวน 35 คน และนับจำนวนหุ้นได้ 54,105,938 หุ้น คิดเป็น 2.29% จึงไม่ครบเป็นองค์ประชุม จึงกำหนดวันนัดประชุมครั้งใหม่เป็นวันที่ 11 ม.ค. 2553
ก่อนหน้านี้บริษัทได้ถูกธนาคารไทยพาณิชย์ฟ้องร้องต่อศาลแพ่งเพื่อเรียกชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินและเงินเบิกเกินบัญชี และผู้บริหารได้เจรจาขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคารสำเร็จ โดยมียอดหนี้ค้างชำระรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 137,740,076.07 บาท (ต้นเงินค้างชำระ 121,696,615.26 บาท และดอกเบี้ย 16,043,460.81 บาท)
ที่ผ่านมาบริษัทประสบปัญหาขาดทุนมานาน จนต้องแก้ปัญหาด้วยการลดทุนจดทะเบียน จากเดิม 315 ล้านบาท เหลือ 78.75 ล้านบาท ด้วยวิธีลดจำนวนหุ้นในอัตรา 4 หุ้นเดิมเหลือ 1 หุ้น เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสม
เลขที่ข่าว 659359
วันที่ 23 ธ.ค. 2552
หมวด Financial and Capital Market, Stock
ชื่อบุคคล ถนอม ถนอมบูรณ์เจริญ สิทธิภาคย์ ธารากุ
ใหม่ถอดด้าม ครบครัน
บริษัท ไอเน็ท คอนเน็ค จำกัด แนะนำโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ANGEL inet 251 TV ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์สดใส มาพร้อมกับฟังก์ชันครบถ้วน ครบครันเรื่องบันเทิงทั้งดูทีวี ฟังเพลง ถ่ายรูป วิดีโอ ราคา 2,490 บาท จำหน่ายที่บลิสเทล ช็อป และโมบายอีซี่
เลขที่ข่าว 659031
วันที่ 22 ธ.ค. 2552
หมวด Communications / Telecommunications
ชื่อบุคคล
ทางหลวงงดใบสั่งแจกยันต์พ่อคูณกันแหกโค้ง
วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.อ.พินิต มณีรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง นายอรรถวิชญ์ เอกธนิตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ท คอนเน็ค จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ “เตือนภัย 87 โค้งอันตรายทั่วไทย” เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่และผู้เดินทางใช้ความระมัดระวังในเส้นทาง 87 โค้งอันตรายทั่วประเทศ และเพื่อป้องกันให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นน้อยที่สุด
พ.ต.อ.พินิต กล่าวว่า กองบังคับการตำรวจทางหลวง ร่วมกับ บริษัท ไอเน็ท คอนเน็ค จำกัด จัดทำโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุในช่วง 7 วัน แห่งความปลอดภัยเทิดไท้องค์ราชัน สนองนโยบายรัฐบาล ในระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.52 - 4 ม.ค.53 โดยประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทใช้ความระมัดระวังในเส้นทาง 87 โค้งอันตรายทั่วประเทศ ซึ่งได้มีการจัดทำป้ายเตือนภัย 87 โค้งอันตราย ขนาดประมาณ 4 เมตร คูณ 2.5 เมตร จำนวน 180 ป้าย รวมทั้งจัดทำแผ่นพับ ใบปลิว และโปสเตอร์ เพื่อให้ สทล.ที่ดูแลโค้งอันตรายทุกแห่งนำไปติดทั้ง 87 แห่ง
“สำหรับ 87 โค้งอันตายนั้นได้สำรวจจากการเกิดอุบัติเหตุทั่วประเทศ โดยก่อนเข้าโค้งอันตรายประมาณ 500 เมตรจะมีป้ายเตือนของทางไอเน็ท พร้อมกันนี้ทางกองบังคับการตำรวจทางหลวงได้จัดที่ไว้บริการประชาชน 217 แห่ง ทั่วประเทศ โดยมีจุดพักรถ บริการเครื่องดื่มต่างๆ บริการตรวจเช็ครถฟรีไว้คอยบริการสำหรับคนที่เดินทางในช่วงปีใหม่ สำหรับในช่วงวันที่ 20-28 ธ.ค.52 ทางกองบังคับการตำรวจทางหลวงจะไม่ออกใบสั่งแต่จะเป็นใบเตือนแก่ผู้กระทำผิดแทนใบสั่งเพื่อให้คนที่ได้รับใบเตือนรู้ถึงความผิดของตนเองแต่ข้างหลังใบเตือนก็จะเป็น ส.ค.ส. ซึ่งมีเพียงจำนวน 40,000 ใบเท่านั้น และหากต้องการขอความช่วยเหลือจากตำรวจทางหลวงสามารถติดต่อสายด่วน 1193 ได้ตลอด 24 ชม.” พ.ต.อ.พินิต กล่าว
พ.ต.อ.พินิต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ บริษัท ไอเน็ท ยังได้จัดทำผ้ายันต์ขอให้โชคดี ปลุกเสกโดยพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) วัดบ้านไร่ จำนวน 9,999 ผืน เป็นของขวัญเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยสามารถรับได้ที่จุดแวะพักของสถานีบริการตำรวจทางหลวง ร้านบลิสเทล โมบายอีซี่ ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ call center 1369
เลขที่ข่าว 658240
วันที่ 17 ธ.ค. 2552
หมวด Transportation / Logistic / Warehouse
น้องใหม่มือถือ "ไอเน็ท" ชู 2 ซิมดูทีวีได้
นายอรรถวิชญ์ เอกธนิตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ท คอนเน็ค จำกัด ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมคุณภาพภายใต้แบรนด์ "inet" เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำตลาดโทรศัพท์มือถือไอเน็ทมาได้ 2-3 เดือน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีสินค้าวางจำหน่ายแล้ว 20 รุ่น ชูจุดเด่นที่ใช้ได้ถึง 2 ซิม ดูทีวีได้ ราคาตั้งแต่ 1,500-6,000 บาท ตั้งเป้าขายช่วงแรก 10,000 เครื่อง และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมียอดขาย 100,000 เครื่อง
"สำหรับปีหน้าตั้งเป้ายอดขายเดือนละกว่า 30,000 เครื่อง คิดเป็นรายได้ปีละ 1,000 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ประมาณ 3-4% โดยเดือน ธ.ค.นี้จะเปิดตัวโทรศัพท์มือถือที่รองรับระบบ 3 จี ราคาเบื้องต้นประมาณ 4,000 บาท ปัจจุบันบริษัทได้ร่วมมือกับกลุ่ม บมจ.ไออีซี ดูแลการจัดจำหน่ายทั่วประเทศ โดยในส่วนการจำหน่ายปลีก จะมีที่ร้านบลิสเทลช็อป ร้านโมบายอีซี่ และเทเลแม็กซ์ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจุดขายเพิ่มขึ้นทุกเดือน นอกจากนี้ยังได้แต่งตั้งให้บริษัทไออีซี อีซี่ ฟิกซ์ จำกัด มาดูแลการบริการหลังการขาย มีจุดให้บริการกระจายทั่วประเทศกว่า 100 แห่ง และสามารถตรวจสอบคุณภาพ การให้บริการ ติดตามสถานะการส่งซ่อมได้ที่ www.ieceasyfix.co.th หรือติดต่อผ่านเบอร์ Call Center 1369"
เลขที่ข่าว 656841
วันที่ 7 ธ.ค. 2552
หมวด Communications / Telecommunications
ชื่อบุคคล อรรถวิชญ์ เอกธนิตพงษ์
3 ผู้ค้าลงขันตั้งบริษัทมือถือเฮ้าส์แบรนด์
นายอรรถวิชญ์ เอกธนิตพงษ์ ผู้ถือหุ้นและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ท คอนเน็ค จำกัด กล่าวว่า เขาได้ลาออกจากบลิส
เทลมาระยะหนึ่งแล้ว และเข้าร่วมกับพันธมิตรหลักได้แก่ บมจ.ไออีซี บมจ. บลิสเทล และเทเลแม็กซ์ จัดตั้งบริษัทแห่งนี้ โดยเขาถือหุ้น 30% ของทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท เป็นค่าพัฒนาและนำเข้ามือถือ และงบการตลาดสำหรับเฮาส์แบรนด์ "ไอเน็ท"
สาเหตุที่เข้ามาทำตลาดและเปิดตัวช่วงนี้ เนื่องจากปัจจุบันโรงงานผลิตมือถือในประเทศจีน มีการพัฒนาขึ้นจนได้มาตรฐานแล้ว ในราคาที่ไม่แพง ประกอบกับตัวเขาเองมีประสบการณ์จากการทำธุรกิจค้าขายมือถือมาก่อน ดังนั้น จึงเห็นช่องทางการเติบโตของ "เฮ้าส์แบรนด์" จากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการทดลองแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ บนมือถือสำหรับโครงข่ายระบบ 3 จี แต่ไม่ต้องการจ่ายเงินสูงระดับ 2 หมื่นบาท เพื่อซื้อสมาร์ทโฟนอินเตอร์แบรนด์มาใช้
รายงานข่าว กล่าวว่า นับเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของผู้ค้ามือถือ 3 รายใหญ่ที่ลงทุนในบริษัทแห่งนี้ ซึ่งจะมีช่องทางจำหน่ายรวมกันมากกว่า 1 พันราย จากเครือข่ายดีลเลอร์ของไออีซี ประมาณ 1 พันราย บลิสเทล-โมบาย อีซี่ ประมาณ 200 ราย และเทเลแม็กซ์ ในเครือเอ็มลิ้งค์ อีกประมาณ 30 ราย
นายอรรถวิชญ์ กล่าวว่า ไอเน็ทได้ทดลองตลาดมาประมาณ 3 เดือน มีผลตอบรับจากยอดขายเกือบ 5 หมื่นเครื่อง ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะทำยอดขายได้ 1 แสนเครื่อง ส่วนปี 2553 จะมียอดขาย 3-4 แสนเครื่อง หรือ 3-4% ของตลาดรวมมือถือที่คาดว่าจะมียอดขายเครื่องใหม่ร่วม 9 ล้านเครื่อง โดยมีประมาณการณ์ว่าเฮ้าส์แบรนด์จะเติบโต 30-35% จากปีนี้ที่ขยายตัวขึ้น 20%
ขณะที่บริษัทตั้งเป้ายอดขายปีหน้า 1 พันล้านบาท หรือเดือนละกว่า 3 หมื่นเครื่อง รวมทั้งประเมินว่า ในที่สุด ตลาดเฮ้าส์
แบรนด์จะเหลือ 3-4 รายที่แข็งแกร่งเท่านั้น โดยไอเน็ทจะมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับที่ 2 รองจาก "ไอ-โมบาย"
ทั้งนี้ มือถือไอเน็ทจะเน้นราคาเครื่องระดับ 1,500-6,000 บาท ซึ่งในการเปิดตลาด 3 จี ของทีโอที ไอเน็ทจะทำแอพพลิเคชั่นรองรับความต้องการของทีโอที โดยไออีซี ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแทนขายส่งบริการ (เอ็มวีเอ็นโอ) มือถือ 3 จี ให้กับทีโอที ได้รับยอดขายซิมช่วงแรก 1 แสนซิม ใน 6 เดือน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ด้านแอพพลิเคชั่นที่คาดว่าจะได้รับความนิยม ได้แก่ การเข้าถึงโซเชียล เน็ตเวิร์ค และในเครื่อง 3 จี ไอเน็ท จะมี 2 ซิมทั้งซิม 2 จี และซิมดาต้า 3 จี ในราคาประมาณ 4 พันบาท เพื่อการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายที่รวดเร็ว
ขณะที่ แหล่งข่าวจาก บมจ. อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นจิเนียริง(ไออีซี) กล่าวว่า ไออีซี ได้ดึงพันธมิตรด้านกลยุทธ์จากเกาหลี มาร่วมสร้างคอนเทนท์ แอพพลิเคชั่น รองรับบริการ 3 จี โดยเตรียมใช้ชื่อแบรนด์บริการเอ็มวีเอ็นโอ ว่า "ไออีซี 3 จี" มีจุดเด่นช่วงแรกจะเน้นเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งจะจัดทำไอคอน ให้ลูกค้า "ไออีซี 3 จี" ที่ซื้อโทรศัพท์มือถือไอเน็ท สามารถกดปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ทั้งจากสถานีตำรวจ และโรงพยาบาล
"ในช่วงแรกจะมีแอร์การ์ด วางตลาดในเดือน ธ.ค.นี้ 3 พันชุด ซึ่งไออีซีจะเน้นสร้างสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้าที่ซื้อเครื่องเรา เพราะ 3 จี เป็นเพียงโครงข่าย แต่จุดขายที่แตกต่างเป็นเรื่องของการคิดสร้างสรรค์" แหล่งข่าวกล่าว
เลขที่ข่าว 654739
วันที่ 26 พ.ย. 2552
หมวด Communications / Telecommunications
ชื่อบุคคล อรรถวิชญ์ เอกธนิตพงษ์
หนังสือพิมพ์[หน้า] กรุงเทพธุรกิจ [ 7 ]
BLISS เพิ่มทุนใหม่ 2.64 พันล.ขาย PP
นางสาวเพ็ญแข เกตุแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS เผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 9/2552 เมื่อวันที่ 12 พ.ย.52 ได้มีมติเห็นชอบการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 263,750,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 305,250,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 569 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญ 2,637,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท โดยให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน 2,637,500,000 หุ้น เสนอขายแก่บุคคลในวงจำกัดหรือผู้ลงทุนสถาบัน ทั้งนี้การกำหนดราคาเสนอขายจะต้องไม่ต่ำกว่าราคาตลาดที่จะคำนวณจากราคาปิดถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้น BLISS ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวม 7 วันทำการติดต่อกัน ก่อนวันแรกที่เสนอขายต่อผู้ลงทุน
สำหรับการเพิ่มทุนดังกล่าว เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัท, ใช้ในการขยายธุรกิจเดิมของบริษัท, ใช้ในการลงทุนธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ และใช้ในการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นอกจากนี้ บอร์ดยังมีมติเห็นชอบให้ก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 3.เรื่องวัตถุประสงค์ของบริษัทเพื่อให้สอดคล้องกับการประกอบธุรกิจของบริษัท โดยเพิ่มเติมวัตถุประสงค์อีกจำนวน 3 ข้อ จากเดิม 69 ข้อ เปลี่ยนเป็น 72 ข้อ ดังต่อไปนี้
ข้อ 70 ประกอบกิจการ และให้บริการกับกิจการที่ได้รับอนุญาต หรือที่ได้รับมอบหมายหรือได้รับการขอความร่วมมือจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ นิติบุคคลใด ๆ หรือเอกชนทั่วไป รวมทั้งการเข้ารับ หรือเป็นผู้เข้าร่วมในกิจการ และการใดที่ ได้ให้บริการ หรือ ที่ได้รับอนุญาต หรือ ที่ได้รับ จ้างทางด้านวิทยุ โทรทัศน์ วีดีโ อ และเครื่องมือ หรือ เครื่องสื่อสารโทรคมนาคม หรือกิจการสื่อสารมวลชนทุกชนิดทุกประเภท
ข้อ 71 ประกอบกิจการให้กู้ยืมเงินโดยวิธีรับจำนองอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งรับจำนำทรัพย์สิน หรือรับซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยวิธีขายฝาก (โดยมิได้รับฝากเงินหรือรับเงินจากประชาชนและใช้ประโยชน์จากเงินนั้น) รับโอนสิทธิเรียกร้อง รับโอนหลักประกันหนี้จากการโอนสิทธิเรียกร้องจากบุคคลหรือนิติบุคคล หรือกองทุนรวม และถือกรรมสิทธิ์ หรือ สิทธิครอบครองหรือ ทรัพย์สินต่างๆ จากการจัดหาขาย จำหน่าย เช่า ให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินจากบุคคลหรือนิติบุคคล อันมิใช่กิจการบริหารสินทรัพย์
ข้อ 72 ประกอบกิจการซื้อขายที่ดิน วัดที่ดินแปลงใหญ่แบ่งออกเป็นแปลงย่อยเพื่อขายหรือจำหน่าย หรือให้เช่าทรัพย์สินพร้อมสิ่งปลูกสร้างหรือไม่ก็ได้ ปลูกสร้างอาคาร และสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ เพื่อแบ่งขายหรือให้เช่า และทำการจัดสรรที่ดิน พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อขายหรือจำหน่าย
บริษัทได้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2552 วันที่ 21 ธันวาคม 2552 และกำหนดวัน Record Date ( กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ ถือหุ้นครั้ง ที่ 2/2552 ) วันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น ตามมาตรา 225 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 (ฉบับประจำวันที่ 14 พ.ย. 52)
เลขที่ข่าว 652986
วันที่ 14 พ.ย. 2552
หมวด Financial and Capital Market, Stock
ชื่อบุคคล เพ็ญแข เกตุแก้ว
หนังสือพิมพ์[หน้า] ASTVผู้จัดการรายวัน [ 6 ]
วานนี้ บริษัท บลิสเทล (BLISS) สามารถจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นได้สำเร็จ หลังจากเลื่อนมาครั้งก่อน เพราะผู้ถือหุ้นมาไม่ครบองค์ประชุม โดยการประชุมครั้งนี้ผู้ถือหุ้นได้ลงมติในทุกวาระ โดยเฉพาะวาระเพิ่มทุนอีกจำนวน 263 ล้านบาท ทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 569 ล้านบาท เพื่อเสนอขายให้กับผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจง (พีพี)
นายสิทธิภาคย์ ธารากุล กรรมการผู้จัดการ BLISS เปิดเผยว่า บริษัทกำลังคัดเลือกผู้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่มากกว่า 1 ราย ซึ่งเชื่อว่าผู้ถือหุ้นใหม่จะช่วยให้บริษัทมีกำไรได้ภายในปี 2553 แม้ปัจจุบันมีขาดทุนสะสม 357 ล้านบาทก็ตาม
สำหรับแผนธุรกิจของปี 2553 จะต้องรอผลการขายหุ้นเพิ่มทุน เพื่อที่จะทราบว่าผู้ถือหุ้นใหม่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนหรือมีกลยุทธ์ใดบ้าง แต่โดยรวมเชื่อว่าผู้ถือหุ้น รายใหม่จะสามารถเข้ามาต่อยอดธุรกิจได้
ด้านจุดแข็งของบริษัทจะดึงดูดให้มีคนเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุน เนื่องจากเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจมานาน มียอดขายที่สูง และ มีจุดจำหน่ายโทรศัพท์ที่มาก น่าจะดึงให้ผู้ลงทุนคำนึงถึงบริษัทเป็นอันดับต้นๆ
อย่างไรก็ตาม หุ้นเพิ่มทุนพีพี บริษัทอาจไม่จำเป็นต้องขายหมดทั้งจำนวนในครั้งเดียว ซึ่งบริษัทมั่นใจจะสามารถขายได้ทั้งหมดภายใน 1 ปีนี้ได้
สำหรับเม็ดเงินที่จะได้รับจากการ เพิ่มทุนจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน 1.นำไปลงทุนเพื่อขยายธุรกิจอื่น 2.นำไปชำระหนี้ ปัจจุบันเหลือหนี้เพียงเล็กน้อยกับธนาคารทหารไทย (TMB) เพียงแห่งเดียว 3.ใช้หมุนเวียนธุรกิจ
เลขที่ข่าว 662436
วันที่ 12 ม.ค. 2553
หมวด Financial and Capital Market, Stock
ชื่อบุคคล สิทธิภาคย์ ธารากุล
หนังสือพิมพ์[หน้า] โพสต์ทูเดย์ [ B11 ]
ภาวะตลาดหุ้นรอบปี 2552 ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 63% และมีการเคลื่อนไหวขึ้นลงแรง ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของนักลงทุนที่นิยมเก็งกำไร แต่หุ้นตัวไหนที่มีแรงเก็งกำไรเกินกว่าสภาพปกติ ตลาดหลักทรัพย์ได้มีมาตรการสกัดแรงเก็งกำไรดังกล่าว โดยหุ้นตัวไหนที่เข้าข่ายตามเกณฑ์หุ้นที่มีปริมาณหมุนเวียนมาก หรือ turnover list ได้แก่ หุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือเอ็มเอไอ ที่มี turnover ratio มากกว่าหรือเท่ากับ 50% และพีอีเรโชว์ มากกว่าหรือเท่ากับ 50 เท่าหรือขาดทุน และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมากกว่าหรือเท่ากับ 100 ล้านบาท
โดยหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายข้อกำหนดดังกล่าวนั้น บริษัทสมาชิก (โบรกเกอร์) ต้องให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนที่จะซื้อหลักทรัพย์นั้น (บัญชี cash balance) เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 รอบการประกาศรายชื่อหรือจนกว่าหลักทรัพย์นั้นๆ จะพ้นจากรายชื่อหุ้นที่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด หากในรอบระยะเวลาที่ 3 ยังติดอยู่ในเกณฑ์ จะต้องให้มีผลต่อไปอีก 1 รอบการประกาศรายชื่อ
ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ในรอบปี 2552 พบว่ามีหุ้นที่เข้าข่าย turnover list และถูกสั่งซื้อขายเฉพาะในบัญชีเงินสดเท่านั้น มีจำนวน 20 หลักทรัพย์ แบ่งเป็น 17 หุ้น และ 3 ใบสำคัญแสดงสิทธิ์ (วอร์แรนท์) ที่จะซื้อหุ้นสามัญ
จากข้อมูลดังกล่าวพบว่า รอบปี 2552 หุ้นยานภัณฑ์ (YNP) มีการเก็งกำไรจนกระทั่ง ถูกสั่งซื้อขายในบัญชีเงินสดมากสุด 3 ครั้ง เพียงบริษัทเดียว แต่มีอีก 5 บริษัทที่ถูกสั่งให้เทรดเงินสด 2 รอบ ได้แก่ หุ้นบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) หุ้นบริษัทโกลเบล็ก (GBX) หุ้นบริษัทเงินทุน สินอุตสาหกรรม (SICCO) หุ้นบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE)
ขณะที่หุ้นบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ ถูกสั่งให้เทรดเงินสดเพียงครั้งเดียว ประกอบด้วย หุ้นบริษัททีทีแอนด์ที (TT&T) บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC) บริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) หรือ ESSO หุ้นจีสตีล (GSTEEL) หุ้น บล.บีฟิท (BSEC) หุ้นไทยคม (THCOM) หุ้นไทยบริการอุตสาหกรรม (TIES) หุ้นดราก้อน วัน (D1) หุ้นธนาคารทหารไทย (TMB) หุ้นบลิสเทล (BLISS) หุ้นอีเทอเนิล เอนเนอยี (EE) และหุ้นซี.ไอ.กรุ๊ป (CIG)
สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นยานภัณฑ์ในรอบปี 2552 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 238.46% จากราคา 0.26 บาท เป็น 0.88 บาท ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวสูงสุดที่ 1.40 บาท ณ 25 พ.ค.2552 ต่ำสุดที่ 0.26 บาท ณ 3 มี.ค.2552 ราคาเฉลี่ย 0.87 บาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า การที่ราคาหุ้นยังคงปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะถูกตลาดหลักทรัพย์ สั่งให้ซื้อขายในบัญชีเงินสดแสดงให้เห็นว่ามาตรการดังกล่าว ไม่สามารถควบคุมแรงเก็งกำไรของนักลงทุนได้ และต้นเหตุของการเก็งกำไร น่าจะเกิดจากกระแสข่าวลือที่ถูกปล่อยข่าวมาเป็นระยะ ซึ่งหุ้นยานภัณฑ์เริ่มต้นจากช่วงปลายเดือนมี.ค.2552 มีข่าวกระจายตามห้องค้า เกี่ยวกับการเข้าร่วมลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ที่สนใจติดต่อขอซื้อหุ้นของบริษัท ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงจนกระทั่ง บริษัทต้องออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว แต่แรงเก็งกำไร ยังหนาแน่นต่อเนื่อง จนถึงต้นเดือนเม.ย. บริษัทได้รายงานการขายสินทรัพย์ บริษัท วาย เอส ภัณฑ์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยให้แก่บริษัท ซังโกะ (ประเทศญี่ปุ่น) มูลค่ารวม 651.32 ล้านบาท ซึ่งข่าวดังกล่าวน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้หุ้นปรับตัวขึ้นในครั้งนั้น และตลาดหลักทรัพย์ก็สั่งให้ซื้อขายได้เฉพาะบัญชีเงินสดตั้งแต่วันที่ 4-22 พ.ค.2552
ต่อมาเดือนก.ค.2552 ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นแรงอีกครั้ง และบริษัทได้ออกมาปฏิเสธข่าวอีกครั้ง กระแสข่าวลือว่ามีบริษัทไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี และหรือนักลงทุนรายใหญ่ อุตสาหกรรมยานยนต์ จะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทยานภัณฑ์ ซึ่งบริษัทชี้แจงว่าไม่เป็นความจริงและไม่มีการเจรจา แต่ราคาหุ้นยังคงปรับตัวขึ้นแรงจนตลาดสั่งให้ซื้อขายเฉพาะบัญชีเงินสด ในระหว่างตั้งแต่ 17 ส.ค. ถึง 4 ก.ย.2552 เป็นครั้งที่สองในรอบปีนี้
เดือน ก.ย.2552 บริษัทได้รายงานการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท โดยผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท คือ นางจำลอง พันธ์พาณิชย์ ได้ทำการจำหน่ายหุ้นบางส่วนที่ถือครองให้แก่นายชาญ เลิศประเสริฐภากร จำนวน 189.81 ล้านหุ้น คิดเป็น 11.86% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด 1.6 พันล้านหุ้น ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ นางจำลอง พันธ์พาณิชย์ สัดส่วนถือหุ้นเดิม 502.99 ล้านหุ้น คิดเป็น 31.44% ของหุ้นจำนวน 1.6 พันล้านหุ้น เมื่อจำหน่ายหุ้นแล้ว สัดส่วนการถือหุ้นคงเหลือ 313.18 ล้านหุ้นคิดเป็น 19.57% ของหุ้นจำนวน 1.6 พันล้านหุ้น
นายชาญ เลิศประเสริฐภากร สัดส่วนการถือหุ้นเดิม 3.6 พันล้านหุ้น คิดเป็น 0.23% ของหุ้นจำนวน 1.6 พันล้านหุ้น เมื่อรับซื้อหุ้นแล้ว สัดส่วนการถือหุ้นเป็น 193.41 ล้านหุ้นคิดเป็น 12.09% ของหุ้นจำนวน 1.6 พันล้านหุ้น ทั้งนี้การถือหุ้นของกลุ่มตระกูลพันธ์พาณิชย์ (รวมการถือหุ้นของนางจำลอง พันธ์พาณิชย์แล้ว) สัดส่วนการถือหุ้นเดิม 681.52 ล้านหุ้นคิดเป็น 42.60% ของหุ้นจำนวน 1.6 พันล้านหุ้น เมื่อจำหน่ายหุ้นแล้ว การถือหุ้นเป็น 491.71 ล้านหุ้น คิดเป็น 30.73% ของหุ้นจำนวน 1.6 พันล้านหุ้น
จากรายละเอียดสัดส่วนการถือหุ้นที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารการจัดการภายในของบริษัทแต่อย่างใด กล่าวคือ นายชาญ เลิศประเสริฐภากร ไม่ได้ประสงค์ที่จะบริหารและมิได้ส่งตัวแทนเข้ามาเป็นกรรมกรรมการของบริษัทแต่อย่างใด ดังนั้น ในการบริหารจัดการภายใน รวมถึงกำหนดเป้าหมาย แนวทาง นโยบาย และแผนงานของบริษัท ควบคุมกำกับดูแลการบริหารและการจัดการ ยังเป็นอำนาจของคณะกรรมการบริษัทชุดเดิม ขณะที่ราคาหุ้นก็ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จนเข้าข่ายเกณฑ์สั่งให้ซื้อขายในบัญชีเงินสด ตั้งแต่ 12-30 ต.ค.2552
จากข้อมูลดังกล่าวนำมาประเมิน จะพบว่าการที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรง จนทำให้ต้องเข้าข่ายเกณฑ์ turnover list เกิดจากกระแสข่าวลือที่กลายเป็นข่าวจริงในที่สุด เพราะจะเห็นว่าข่าวลือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.จนกระทั่งถึงเดือนก.ย. สลับกันไปมา และตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้นหากนักลงทุนเข้ามาลงทุน และซื้อขายได้ถูกจังหวะก็จะได้รับผลตอบแทนในอัตราที่สูงไม่น้อย
นอกจากนี้ยังทำให้ตั้งข้อสังเกตได้ว่า กระแสข่าวลือที่เกิดขึ้นก่อนทำรายการจริง นักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับดีลการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทยานภัณฑ์ในครั้งนี้ จะมีส่วนรู้เห็นเข้าร่วมกระบวนการเก็งกำไรด้วยหรือไม่ เพราะถ้าย้อนหลังข้อมูลไปเมื่อ 4 ปีก่อน พบว่า กลุ่มบุคคลที่ทำรายการในครั้งนี้เคยถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งปรับ มูลค่ารวม 40 ล้านบาท กรณีสร้างราคาหุ้นของบริษัทยานภัณฑ์ ในปี 2548 นักลงทุนที่คิดจะเข้ามาลงทุนหุ้นเก็งกำไร คงต้องทำใจไว้รับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นชนิดไม่รู้ตัวได้ตลอดเวลา
เลขที่ข่าว 661364
วันที่ 6 ม.ค. 2553
หมวด Automotive and Accessories
ชื่อบุคคล จำลอง พันธ์พาณิชย์ ชาญ เลิศประเสริฐภากร
บลิส-เทลดิ้น แก้หนี้แบงก์ภาระ190ล.
นายสิทธิภาคย์ ธารากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลิส-เทล (BLISS) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 ก.ย. 2552 บริษัทมีเงินเบิกเกินบัญชีธนาคารและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินจำนวน 190 ล้านบาท
สำหรับเงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลอื่น คือ นายถนอม ถนอมบูรณ์เจริญ จำนวนเงิน 20 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดชำระคืนในวันที่ 4 ธ.ค. 2552 และเงินกู้ยืมดังกล่าวค้ำประกันโดยกรรมสิทธิ์ห้องชุด 120 ห้องนั้น บริษัทได้ชำระคืนเงินกู้ยืมแล้วตามกำหนด และได้จดทะเบียนไถ่ถอนห้องชุดทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว
ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ถือหุ้นมาร่วมประชุมจำนวน 35 คน และนับจำนวนหุ้นได้ 54,105,938 หุ้น คิดเป็น 2.29% จึงไม่ครบเป็นองค์ประชุม จึงกำหนดวันนัดประชุมครั้งใหม่เป็นวันที่ 11 ม.ค. 2553
ก่อนหน้านี้บริษัทได้ถูกธนาคารไทยพาณิชย์ฟ้องร้องต่อศาลแพ่งเพื่อเรียกชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินและเงินเบิกเกินบัญชี และผู้บริหารได้เจรจาขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคารสำเร็จ โดยมียอดหนี้ค้างชำระรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 137,740,076.07 บาท (ต้นเงินค้างชำระ 121,696,615.26 บาท และดอกเบี้ย 16,043,460.81 บาท)
ที่ผ่านมาบริษัทประสบปัญหาขาดทุนมานาน จนต้องแก้ปัญหาด้วยการลดทุนจดทะเบียน จากเดิม 315 ล้านบาท เหลือ 78.75 ล้านบาท ด้วยวิธีลดจำนวนหุ้นในอัตรา 4 หุ้นเดิมเหลือ 1 หุ้น เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสม
เลขที่ข่าว 659359
วันที่ 23 ธ.ค. 2552
หมวด Financial and Capital Market, Stock
ชื่อบุคคล ถนอม ถนอมบูรณ์เจริญ สิทธิภาคย์ ธารากุ
ใหม่ถอดด้าม ครบครัน
บริษัท ไอเน็ท คอนเน็ค จำกัด แนะนำโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ANGEL inet 251 TV ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์สดใส มาพร้อมกับฟังก์ชันครบถ้วน ครบครันเรื่องบันเทิงทั้งดูทีวี ฟังเพลง ถ่ายรูป วิดีโอ ราคา 2,490 บาท จำหน่ายที่บลิสเทล ช็อป และโมบายอีซี่
เลขที่ข่าว 659031
วันที่ 22 ธ.ค. 2552
หมวด Communications / Telecommunications
ชื่อบุคคล
ทางหลวงงดใบสั่งแจกยันต์พ่อคูณกันแหกโค้ง
วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.อ.พินิต มณีรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง นายอรรถวิชญ์ เอกธนิตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ท คอนเน็ค จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ “เตือนภัย 87 โค้งอันตรายทั่วไทย” เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่และผู้เดินทางใช้ความระมัดระวังในเส้นทาง 87 โค้งอันตรายทั่วประเทศ และเพื่อป้องกันให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นน้อยที่สุด
พ.ต.อ.พินิต กล่าวว่า กองบังคับการตำรวจทางหลวง ร่วมกับ บริษัท ไอเน็ท คอนเน็ค จำกัด จัดทำโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุในช่วง 7 วัน แห่งความปลอดภัยเทิดไท้องค์ราชัน สนองนโยบายรัฐบาล ในระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.52 - 4 ม.ค.53 โดยประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทใช้ความระมัดระวังในเส้นทาง 87 โค้งอันตรายทั่วประเทศ ซึ่งได้มีการจัดทำป้ายเตือนภัย 87 โค้งอันตราย ขนาดประมาณ 4 เมตร คูณ 2.5 เมตร จำนวน 180 ป้าย รวมทั้งจัดทำแผ่นพับ ใบปลิว และโปสเตอร์ เพื่อให้ สทล.ที่ดูแลโค้งอันตรายทุกแห่งนำไปติดทั้ง 87 แห่ง
“สำหรับ 87 โค้งอันตายนั้นได้สำรวจจากการเกิดอุบัติเหตุทั่วประเทศ โดยก่อนเข้าโค้งอันตรายประมาณ 500 เมตรจะมีป้ายเตือนของทางไอเน็ท พร้อมกันนี้ทางกองบังคับการตำรวจทางหลวงได้จัดที่ไว้บริการประชาชน 217 แห่ง ทั่วประเทศ โดยมีจุดพักรถ บริการเครื่องดื่มต่างๆ บริการตรวจเช็ครถฟรีไว้คอยบริการสำหรับคนที่เดินทางในช่วงปีใหม่ สำหรับในช่วงวันที่ 20-28 ธ.ค.52 ทางกองบังคับการตำรวจทางหลวงจะไม่ออกใบสั่งแต่จะเป็นใบเตือนแก่ผู้กระทำผิดแทนใบสั่งเพื่อให้คนที่ได้รับใบเตือนรู้ถึงความผิดของตนเองแต่ข้างหลังใบเตือนก็จะเป็น ส.ค.ส. ซึ่งมีเพียงจำนวน 40,000 ใบเท่านั้น และหากต้องการขอความช่วยเหลือจากตำรวจทางหลวงสามารถติดต่อสายด่วน 1193 ได้ตลอด 24 ชม.” พ.ต.อ.พินิต กล่าว
พ.ต.อ.พินิต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ บริษัท ไอเน็ท ยังได้จัดทำผ้ายันต์ขอให้โชคดี ปลุกเสกโดยพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) วัดบ้านไร่ จำนวน 9,999 ผืน เป็นของขวัญเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยสามารถรับได้ที่จุดแวะพักของสถานีบริการตำรวจทางหลวง ร้านบลิสเทล โมบายอีซี่ ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ call center 1369
เลขที่ข่าว 658240
วันที่ 17 ธ.ค. 2552
หมวด Transportation / Logistic / Warehouse
น้องใหม่มือถือ "ไอเน็ท" ชู 2 ซิมดูทีวีได้
นายอรรถวิชญ์ เอกธนิตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ท คอนเน็ค จำกัด ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมคุณภาพภายใต้แบรนด์ "inet" เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำตลาดโทรศัพท์มือถือไอเน็ทมาได้ 2-3 เดือน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีสินค้าวางจำหน่ายแล้ว 20 รุ่น ชูจุดเด่นที่ใช้ได้ถึง 2 ซิม ดูทีวีได้ ราคาตั้งแต่ 1,500-6,000 บาท ตั้งเป้าขายช่วงแรก 10,000 เครื่อง และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมียอดขาย 100,000 เครื่อง
"สำหรับปีหน้าตั้งเป้ายอดขายเดือนละกว่า 30,000 เครื่อง คิดเป็นรายได้ปีละ 1,000 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ประมาณ 3-4% โดยเดือน ธ.ค.นี้จะเปิดตัวโทรศัพท์มือถือที่รองรับระบบ 3 จี ราคาเบื้องต้นประมาณ 4,000 บาท ปัจจุบันบริษัทได้ร่วมมือกับกลุ่ม บมจ.ไออีซี ดูแลการจัดจำหน่ายทั่วประเทศ โดยในส่วนการจำหน่ายปลีก จะมีที่ร้านบลิสเทลช็อป ร้านโมบายอีซี่ และเทเลแม็กซ์ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจุดขายเพิ่มขึ้นทุกเดือน นอกจากนี้ยังได้แต่งตั้งให้บริษัทไออีซี อีซี่ ฟิกซ์ จำกัด มาดูแลการบริการหลังการขาย มีจุดให้บริการกระจายทั่วประเทศกว่า 100 แห่ง และสามารถตรวจสอบคุณภาพ การให้บริการ ติดตามสถานะการส่งซ่อมได้ที่ www.ieceasyfix.co.th หรือติดต่อผ่านเบอร์ Call Center 1369"
เลขที่ข่าว 656841
วันที่ 7 ธ.ค. 2552
หมวด Communications / Telecommunications
ชื่อบุคคล อรรถวิชญ์ เอกธนิตพงษ์
3 ผู้ค้าลงขันตั้งบริษัทมือถือเฮ้าส์แบรนด์
นายอรรถวิชญ์ เอกธนิตพงษ์ ผู้ถือหุ้นและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ท คอนเน็ค จำกัด กล่าวว่า เขาได้ลาออกจากบลิส
เทลมาระยะหนึ่งแล้ว และเข้าร่วมกับพันธมิตรหลักได้แก่ บมจ.ไออีซี บมจ. บลิสเทล และเทเลแม็กซ์ จัดตั้งบริษัทแห่งนี้ โดยเขาถือหุ้น 30% ของทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท เป็นค่าพัฒนาและนำเข้ามือถือ และงบการตลาดสำหรับเฮาส์แบรนด์ "ไอเน็ท"
สาเหตุที่เข้ามาทำตลาดและเปิดตัวช่วงนี้ เนื่องจากปัจจุบันโรงงานผลิตมือถือในประเทศจีน มีการพัฒนาขึ้นจนได้มาตรฐานแล้ว ในราคาที่ไม่แพง ประกอบกับตัวเขาเองมีประสบการณ์จากการทำธุรกิจค้าขายมือถือมาก่อน ดังนั้น จึงเห็นช่องทางการเติบโตของ "เฮ้าส์แบรนด์" จากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการทดลองแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ บนมือถือสำหรับโครงข่ายระบบ 3 จี แต่ไม่ต้องการจ่ายเงินสูงระดับ 2 หมื่นบาท เพื่อซื้อสมาร์ทโฟนอินเตอร์แบรนด์มาใช้
รายงานข่าว กล่าวว่า นับเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของผู้ค้ามือถือ 3 รายใหญ่ที่ลงทุนในบริษัทแห่งนี้ ซึ่งจะมีช่องทางจำหน่ายรวมกันมากกว่า 1 พันราย จากเครือข่ายดีลเลอร์ของไออีซี ประมาณ 1 พันราย บลิสเทล-โมบาย อีซี่ ประมาณ 200 ราย และเทเลแม็กซ์ ในเครือเอ็มลิ้งค์ อีกประมาณ 30 ราย
นายอรรถวิชญ์ กล่าวว่า ไอเน็ทได้ทดลองตลาดมาประมาณ 3 เดือน มีผลตอบรับจากยอดขายเกือบ 5 หมื่นเครื่อง ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะทำยอดขายได้ 1 แสนเครื่อง ส่วนปี 2553 จะมียอดขาย 3-4 แสนเครื่อง หรือ 3-4% ของตลาดรวมมือถือที่คาดว่าจะมียอดขายเครื่องใหม่ร่วม 9 ล้านเครื่อง โดยมีประมาณการณ์ว่าเฮ้าส์แบรนด์จะเติบโต 30-35% จากปีนี้ที่ขยายตัวขึ้น 20%
ขณะที่บริษัทตั้งเป้ายอดขายปีหน้า 1 พันล้านบาท หรือเดือนละกว่า 3 หมื่นเครื่อง รวมทั้งประเมินว่า ในที่สุด ตลาดเฮ้าส์
แบรนด์จะเหลือ 3-4 รายที่แข็งแกร่งเท่านั้น โดยไอเน็ทจะมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับที่ 2 รองจาก "ไอ-โมบาย"
ทั้งนี้ มือถือไอเน็ทจะเน้นราคาเครื่องระดับ 1,500-6,000 บาท ซึ่งในการเปิดตลาด 3 จี ของทีโอที ไอเน็ทจะทำแอพพลิเคชั่นรองรับความต้องการของทีโอที โดยไออีซี ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแทนขายส่งบริการ (เอ็มวีเอ็นโอ) มือถือ 3 จี ให้กับทีโอที ได้รับยอดขายซิมช่วงแรก 1 แสนซิม ใน 6 เดือน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ด้านแอพพลิเคชั่นที่คาดว่าจะได้รับความนิยม ได้แก่ การเข้าถึงโซเชียล เน็ตเวิร์ค และในเครื่อง 3 จี ไอเน็ท จะมี 2 ซิมทั้งซิม 2 จี และซิมดาต้า 3 จี ในราคาประมาณ 4 พันบาท เพื่อการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายที่รวดเร็ว
ขณะที่ แหล่งข่าวจาก บมจ. อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นจิเนียริง(ไออีซี) กล่าวว่า ไออีซี ได้ดึงพันธมิตรด้านกลยุทธ์จากเกาหลี มาร่วมสร้างคอนเทนท์ แอพพลิเคชั่น รองรับบริการ 3 จี โดยเตรียมใช้ชื่อแบรนด์บริการเอ็มวีเอ็นโอ ว่า "ไออีซี 3 จี" มีจุดเด่นช่วงแรกจะเน้นเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งจะจัดทำไอคอน ให้ลูกค้า "ไออีซี 3 จี" ที่ซื้อโทรศัพท์มือถือไอเน็ท สามารถกดปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ทั้งจากสถานีตำรวจ และโรงพยาบาล
"ในช่วงแรกจะมีแอร์การ์ด วางตลาดในเดือน ธ.ค.นี้ 3 พันชุด ซึ่งไออีซีจะเน้นสร้างสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้าที่ซื้อเครื่องเรา เพราะ 3 จี เป็นเพียงโครงข่าย แต่จุดขายที่แตกต่างเป็นเรื่องของการคิดสร้างสรรค์" แหล่งข่าวกล่าว
เลขที่ข่าว 654739
วันที่ 26 พ.ย. 2552
หมวด Communications / Telecommunications
ชื่อบุคคล อรรถวิชญ์ เอกธนิตพงษ์
หนังสือพิมพ์[หน้า] กรุงเทพธุรกิจ [ 7 ]
BLISS เพิ่มทุนใหม่ 2.64 พันล.ขาย PP
นางสาวเพ็ญแข เกตุแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS เผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 9/2552 เมื่อวันที่ 12 พ.ย.52 ได้มีมติเห็นชอบการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 263,750,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 305,250,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 569 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญ 2,637,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท โดยให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน 2,637,500,000 หุ้น เสนอขายแก่บุคคลในวงจำกัดหรือผู้ลงทุนสถาบัน ทั้งนี้การกำหนดราคาเสนอขายจะต้องไม่ต่ำกว่าราคาตลาดที่จะคำนวณจากราคาปิดถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้น BLISS ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวม 7 วันทำการติดต่อกัน ก่อนวันแรกที่เสนอขายต่อผู้ลงทุน
สำหรับการเพิ่มทุนดังกล่าว เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัท, ใช้ในการขยายธุรกิจเดิมของบริษัท, ใช้ในการลงทุนธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ และใช้ในการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นอกจากนี้ บอร์ดยังมีมติเห็นชอบให้ก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 3.เรื่องวัตถุประสงค์ของบริษัทเพื่อให้สอดคล้องกับการประกอบธุรกิจของบริษัท โดยเพิ่มเติมวัตถุประสงค์อีกจำนวน 3 ข้อ จากเดิม 69 ข้อ เปลี่ยนเป็น 72 ข้อ ดังต่อไปนี้
ข้อ 70 ประกอบกิจการ และให้บริการกับกิจการที่ได้รับอนุญาต หรือที่ได้รับมอบหมายหรือได้รับการขอความร่วมมือจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ นิติบุคคลใด ๆ หรือเอกชนทั่วไป รวมทั้งการเข้ารับ หรือเป็นผู้เข้าร่วมในกิจการ และการใดที่ ได้ให้บริการ หรือ ที่ได้รับอนุญาต หรือ ที่ได้รับ จ้างทางด้านวิทยุ โทรทัศน์ วีดีโ อ และเครื่องมือ หรือ เครื่องสื่อสารโทรคมนาคม หรือกิจการสื่อสารมวลชนทุกชนิดทุกประเภท
ข้อ 71 ประกอบกิจการให้กู้ยืมเงินโดยวิธีรับจำนองอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งรับจำนำทรัพย์สิน หรือรับซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยวิธีขายฝาก (โดยมิได้รับฝากเงินหรือรับเงินจากประชาชนและใช้ประโยชน์จากเงินนั้น) รับโอนสิทธิเรียกร้อง รับโอนหลักประกันหนี้จากการโอนสิทธิเรียกร้องจากบุคคลหรือนิติบุคคล หรือกองทุนรวม และถือกรรมสิทธิ์ หรือ สิทธิครอบครองหรือ ทรัพย์สินต่างๆ จากการจัดหาขาย จำหน่าย เช่า ให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินจากบุคคลหรือนิติบุคคล อันมิใช่กิจการบริหารสินทรัพย์
ข้อ 72 ประกอบกิจการซื้อขายที่ดิน วัดที่ดินแปลงใหญ่แบ่งออกเป็นแปลงย่อยเพื่อขายหรือจำหน่าย หรือให้เช่าทรัพย์สินพร้อมสิ่งปลูกสร้างหรือไม่ก็ได้ ปลูกสร้างอาคาร และสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ เพื่อแบ่งขายหรือให้เช่า และทำการจัดสรรที่ดิน พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อขายหรือจำหน่าย
บริษัทได้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2552 วันที่ 21 ธันวาคม 2552 และกำหนดวัน Record Date ( กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ ถือหุ้นครั้ง ที่ 2/2552 ) วันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น ตามมาตรา 225 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 (ฉบับประจำวันที่ 14 พ.ย. 52)
เลขที่ข่าว 652986
วันที่ 14 พ.ย. 2552
หมวด Financial and Capital Market, Stock
ชื่อบุคคล เพ็ญแข เกตุแก้ว
หนังสือพิมพ์[หน้า] ASTVผู้จัดการรายวัน [ 6 ]
Ton- Admin
- จำนวนข้อความ : 127
Join date : 03/05/2009
: 48
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ